ผู้เขียน หัวข้อ: ที่สุดความปลอดภัย EuroNCAP  (อ่าน 2563 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Morgan

  • บุคคลทั่วไป
ที่สุดความปลอดภัย EuroNCAP
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 09:31:46 AM »
เป้าหมายในการทำงานของ EuroNCAP อย่างหนึ่งคือ การกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ไม่ว่าจะมาจากไหนก็ตาม ทำการพัฒนาความปลอดภัยทั้งในเชิงปกป้องและแก้ไขรายละเอียดรถยนต์ใหม่ของตัวเองที่จะเข้ามาขายในยุโรป และแน่นอนว่าที่ผ่านมา หน่วยงานอิสระแห่งนี้สามารถกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์เห็นความสำคัญ และยกระดับความปลอดภัยของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพื่อให้ทุกการเดินทางมีความมั่นใจมากขึ้น
       
       และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติประจำปีที่ EuroNCAP จะต้องเลือกรถยนต์ที่มีผลงานดีที่สุดในแต่ละรุ่นออกมาช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยจะมีการตีพิมพ์เอกสารที่เรียกว่า Best in Class ออกมา โดยในปี 2011 มีการเลือกออกมา 5 กลุ่ม จำนวน 5 คัน จากที่จัดทดสอบทุกคลาสในปี 2011 รวมทั้งหมด 53 รุ่น
       
       ในปีที่แล้ว ทาง EuroNCAP บอกว่าถือเป็นอีกปีที่ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องทำงานอย่างหนักในการปรับปรุงรถยนต์ของตัวเองในการทดสอบชนกับหน่วยงานนี้ เพราะว่ามีการเปลี่ยนแปลงกฎ และหันไปเข้มงวดกับระบบความปลอดภัยในรถยนต์มากขึ้น เพื่อให้ตัวรถสอดคล้องกับการใช้งานของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

       แต่ผลงานโดยรวมของผู้ผลิตรถยนต์ในปีที่แล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งในปีที่แล้วยังถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดทดสอบชนรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตขายในเชิงพาณิชย์ ซึ่งก็คือ นิสสัน ลีฟ โดยใช้เงื่อนไขในการทดสอบทุกอย่างเหมือนกับรถยนต์ทั่วไป และลีฟก็ผ่านการทดสอบโดยที่มีผลงานอยู่ในระดับ 5 ดาว
       
       นอกจากนั้น ทาง EuroNCAP ยังชื่นชมกับผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายในการเป็นผู้นำในด้านความปลอดภัย ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับรถยนต์ของตัวเอง แม้ว่าระบบเหล่านี้จะยังเป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้งเพิ่มเติม หรือ Option ก็ตาม เช่น ฟอร์ด โฟกัสกับการมีระบบต่างๆ มากมายอย่าง Active City Stop ซึ่งจะมีการหยุดอัตโนมัติหากมีคนเดินตัดหน้า ขณะที่กำลังด้วยความเร็วต่ำในเมือง, ระบบแจ้งเตือนผู้ขับเมื่อรถจึ้ท้ายคันหน้ามากไป หรือระบบช่วยรักษาช่องทางของตัวเอง
       
       สำหรับในปี 2012 ทาง EuroNCAP บอกว่าจะมีการเพิ่มความงวดในด้านมาตรฐานการทดสอบขึ้นอีก โดยเฉพาะในส่วนของการให้คะแนนการทดสอบชนคนเดินถนน ที่จะมีการขยับคะแนนต่ำสุดจาก 40% มาเป็น 60% เพื่อเป็นกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์หันมาสนใจกับความปลอดภัยในส่วนนี้
       
       กลับมาที่ Best in Class ประจำปี 2011 ทาง EuroNCAP แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งก็ประกอบไปด้วย กลุ่มออฟโรด 4X4 ขนาดเล็ก หรือ Small off-road 4×4 ตามด้วยกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก หรือ Super Mini ซึ่งก็หมายถึงรถยนต์ในกลุ่ม A และ B-Car, รถยนต์ครอบครัวขนาดเล็ก หรือ Small Family Car เทียบแล้วก็คือกลุ่มคอมแพ็กต์ หรือ C-Car, กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก หรือ Mini MPV และกลุ่มรถยนต์ครอบครัวขนาดใหญ่ หรือ Large Family

       1.ออฟโรด 4X4 ขนาดเล็ก
       Best in Class : Audi Q3
       Runner-up : BMW X1
       
       รุ่นที่ถูกนำมาทดสอบเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2,000 ซีซี และ Q3 ทำผลการทดสอบโดยรวมในระดับ 5 ดาวเต็ม แต่เมื่อแบ่งคะแนนที่ได้ออกเป็นส่วนต่างๆ แล้วพบว่า ในแง่ของการปกป้องผู้ขับและผู้ขับขี่ด้วยคะแนน 94% ปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็กซึ่งนั่งอยู่บนเบาะนั่งนิรภัยถึง 85% ปกป้องคนเดินถนนอยู่ที่ 52% และในส่วนของการช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ เพิ่มเติมนั้นอยู่ในระดับ 86%

       ในเรื่องการทดสอบชนทางด้านหน้าตามาตรฐานของ EuroNCAP พบว่า โครงสร้างของตัวรถแทบจะไม่มีการบิดเบี้ยวเลย และค่าแรงกระทำที่หุ่นดัมมี่ทั้ง 2 ตัวมีระดับต่ำมากไม่ว่าจะเป็นการชนทางด้านหน้า หรือการชนทางด้านข้างด้วยสิ่งกีดขวางแบบยุบตัวได้ หรือว่ากับเสา โดยทาง EuroNCAP ชื่นชอบการออกแบบตัวเบาะนั่งและระบบความปลอดภัยที่มีส่วนช่วยสนับสนุนความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารไม่ว่าจะมีสรีระขนาดไหนก็ตาม
       
       แต่สิ่งที่น่ากังวลสำหรับ Q3 (แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลมาก) คือ ระดับคะแนนในการทดสอบชนคนเดินถนน ที่ได้ระดับปานกลาง โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการออกแบบรายละเอียดด้านหน้าของออดี้ ซึ่งมีหน้าตัดค่อนข้างใหญ่
       โดยทาง EuroNCAP บอกว่ากันชนหน้าออกแบบมาได้ดีในการดูดซับแรงกระแทก แต่มาสอบตกตรงที่กระจังหน้า และฝากระโปรงหน้า ซึ่งไม่ได้ช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเลย

       2.รถยนต์ขนาดเล็ก
       Best in Class : Chevrolet Aveo
       Runner-up : Toyota Yaris
       
       ถ้ายังจำกันได้ ผลงานของอาวีโอรุ่นที่แล้วถือว่าน่าผิดหวังอย่างรุนแรงในด้านมาตรฐานความปลอดภัย เพราะได้คะแนนในการทดสอบที่ต่ำมากจนกระทั่ง EuroNCAP ต้องแนะนำให้กลับไปปรับปรุงก่อนที่จะมีการทดสอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าจะผ่าน แต่ก็ผ่านแบบผลงานไม่ดีเท่าไร

       ผิดกับโฉมใหม่ที่เป็นโมเดลเชนจ์ ซึ่งในบ้านเรากำลังจะเข้ามาขายในเร็ววันนี้ด้วยชื่อโซนิก ซึ่งเชฟโรเลต อาวีโอใหม่ตัวถังแฮทช์แบ็กผ่านการทดสอบชนจาก EuroNCAP ด้วยผลงานแบบ 5 ดาว แถมระดับการปกป้องผู้ขับและผู้โดยสารจากการชนทางด้านหน้าและด้านข้างยังอยู่ในระดับที่สูงมากถึง 95% แถมในสเป็กที่ขายในยุโรปยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยที่มากมายตามข้อกำหนดของ EU
       
       ในแง่การทดสอบชนทางด้าน โครงสร้างตัวถังหลักของตัวรถไม่มีการผิดรูปมาก และสิ่งที่ได้รับการชื่นชมคือ การปกป้องผู้ขับและผู้โดยสารจากการชนทางด้านหน้าได้เป็นอย่างดี โดยมีแรงกระทำเกิดขึ้นที่หัวเข่าของผู้ขับขี่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากที่ตัวรถพุ่งเข้ากระแทกกับสิ่งกีดขวางแบบยุบตัวได้
       
       และนั่นทำให้อาวีโอใหม่ได้รับเลือกให้เป็น Best Pick ในกลุ่มนี้ไปโดยปริยาย

       

       3.รถยนต์ครอบครัวขนาดเล็ก
       Best in Class : Ford Focus
       Runner-up : Lexus CT200h
       
       ทำดีต้องให้เพิ่ม...สำหรับโฟกัสใหม่แล้ว นอกจากจะได้รับเลือกให้เป็นที่สุดในกลุ่มนี้แล้ว ยังได้รับรางวัลจาก EuroNCAP ที่เรียกว่า Advanced Reward ซึ่งเป็นเพราะเหตุผลข้างต้น คือ การนำระบบความปลอดภัยใหม่ๆ มาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าในกลุ่มคอมแพ็กต์ก่อนคู่แข่ง และนั่นทำให้โฟกัสกลายเป็นรถยนต์ที่ไม่ใช่แบรนด์พรีเมียมได้รับรางวัลนี้ในปีนี้

       ผลการทดสอบโดยรวมได้ 5 ดาวเต็ม และสกอร์ที่ทำได้ในแต่ละส่วนของโฟกัสถือว่าอยู่ในระดับที่ควรจะเป็นของรถยนต์ที่ได้รับการจัดอันดับในกลุ่ม 5 ดาว แต่ในหัวข้อที่เหนือกว่าใครเพื่อนและทำให้ EuroNCAP ค่อนข้างชื่นชมโฟกัสใหม่คือ คะแนนที่ได้รับจากการทดสอบชนคนเดินถนนที่สูงถึง 72% เรียกว่าสูงมาก เพราะในกลุ่มนี้ผู้ผลิตรถยนต์มักไม่ค่อยให้ความสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะไม่ใช่จุดที่สามารถจะนำไปสร้างเป็นจุดเด่นทางการตลาด หรือไม่ก็อาจจะเกรงว่าจะสร้างผลกระทบต่องานออกแบบ
       
       แต่ฟอร์ดกลับทำได้ดีเยี่ยมโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ที่ลงตัวทางด้านหน้า ซึ่งจะต้องเป็นจุดปะทะกับคนเดินถนนหากเกิดการชนขึ้นมา โดย EuroNCAP บอกว่างานออกแบบของฟอร์ด โฟกัสมีความลงตัวใน 2 จุดอย่างมาก เพราะจากการทดสอบชนกับหุ่นคนเดินถนนทั้งผู้ใหญ่และเด็กพบว่าค่าแรงกระทำที่เกิดขึ้นกับตัวหุ่นมีน้อยมากซึ่งเป็นผลมาจากความใส่ใจในการออกแบบตั้งแต่กันชน กระจังหน้า และที่สำคัญสุดคือ ฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะต้องรับการกระแทกของคนที่ถูกชน

       

       4.กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก
       Best in Class : Mercedes B Class
       Runner-up : Opel Zafira Tourer
       
       มาใหม่ก็ทำผลงานได้ดีทันที สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ บี-คลาสโฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้วแถมระบบที่เรียกว่า Collision Prevention Assist ที่ติดตั้งในรถยนต์รุ่นนี้ยังมีส่วนช่วยให้บี-คลาสสอยมาได้อีกรางวัล คือ Advanced Reward

       ภาพรวมของการทดสอบ บี-คลาสได้ 5 ดาว โดยมีระดับการปกป้องผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าจากการชนทางด้านหน้าและหลังสูงถึง 97% เรียกว่าสูงที่สุดในบรรดารถยนต์ทุกรุ่นที่ได้รับเลือกให้เป็นที่สุดของแต่ละกลุ่มในปี 2011 และแม้ในบี-คลาสใหม่จะมีการติดตั้งระบบ PRE-SAFE เข้ามา ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงในการชน แต่ทว่าในระหว่างการทดสอบก็มีการปลดการทำงานของระบบนี้ออกไป โดย EuroNCAP ให้คำชมกับโครงสร้างตัวถังของบี-คลาสใหม่ที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการดูดซับและกระจายแรงกระแทกจนทำให้ไม่เกิดการยุบตัวหรือเสียรูป
       
       ส่วนในการทดสอบชนทางด้านข้างบี-คลาสก็ทำได้เป็นอย่างดี และได้คะแนนการทดสอบเต็ม

       

       5.รถยนต์ครอบครัวขนาดใหญ่
       Best in Class : Volvo S60
       Runner-up : Chevrolet Malibu
       
       วอลโว่เป็นอีกค่ายที่ได้รับรางวัล Advanced Reward อันเป็นผลมาจากความพยายามในการยกระดับความปลอดภัยรถยนต์ของตัวเองเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับและคนเดินถนน โดยเทคโนโลยีระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินนตัดหน้าระหว่างการขับในเมือง คือประเด็นหลักที่ทำให้วอลโว่ได้รางวัลนี้ และเมื่อดูจากหัวข้อในการทดสอบเมื่อปี 2011 วอลโว่ S60 น่าจะเป็นรถยนต์รุ่นเดียวที่มีคะแนนในส่วน Safety Assist เต็ม 100% อันเป็นผลมาจากความใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอด และนำเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ๆ ใส่เข้ามาในรถยนต์ของตัวเอง

       ในด้านการทดสอบชน S60 ได้คะแนนในการทดสอบครั้งนี้ 5 ดาว และได้ 94% ในแง่ของการปกป้องผู้ขับและผู้โดยสาร ส่วนการปกป้องเด็กอยู่ในระดับ 82% ซึ่งถือว่าเป็นค่ามาตรฐานปานกลางที่ไม่โดดเด่นเหนือใคร เพราะรถยนต์ส่วนใหญ่ได้ระดับคะแนนประมาณนี้
       
       โดยในระหว่างการทดสอบชนด้านหน้า แม้ว่าเสากระจกบังลมหน้าจะมีการเคลื่อนตัวจากตำแหน่งเดิมประมาณ 1 มิลลิเมตร แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยรวมอะไรกับความปลอดภัยของผู้ขับ และผู้โดยสาร ซึ่งระดับแรงกระทำที่เกิดขึ้นมากที่สุดในการทดสอบเกิดขึ้นที่ขาท่อนล่างของคนขับ แต่ก็ระดับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นก็อยู่ในระดับต่ำ ไม่ถึงกับต้องกังวลอะไร