ผู้เขียน หัวข้อ: หม้อน้ำเดือด เข็มความร้อนขึ้น...  (อ่าน 3418 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Mor

  • Type3
  • ***
  • กระทู้: 384
  • คะแนนพิษสวาท +1/-1
หม้อน้ำเดือด เข็มความร้อนขึ้น...
« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2012, 07:34:58 AM »
บ้านเมืองเราร้อนขึ้นทุกวันแล้ว

ก็ต้องมาสนใจศึกษาระบบระบายความร้อนของรถยนต์กันสักหน่อย

และระยะนี้มีผู้มีปัญหาเรื่องนี้อยู่สองสามราย

จึงขอถือโอกาสยกขึ้นเป็นหัวข้อใหม่ เผื่อจะเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจกับ

ปัญหาระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ของเจ้าของรถทุกท่าน

ในการทำงาน

ของเครื่องยนต์จะมีความร้อนเกิดขึ้น

ซึ่งต้องมีระบบระบายความร้อนเพื่อป้องกันความเสียหายของเครื่องยนต์

รถยนต์ทั่วๆไปใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน

โดยมีท่อน้ำหล่อเย็นเข้าไปในตัวเครื่องยนต์

แล้วน้ำที่รับความร้อนจากภายในเครื่องยนต์ ก็ถูกส่งมายังหม้อน้ำรถยนต์

เพื่อระบายความร้อนออกจากน้ำ โดยอาศัยอากาศ(ลม)ที่ผ่านหม้อน้ำ(radiator)

และปริมาณอากาศที่ผ่านเข้ามาระบายความร้อนจะมีมากขึ้น

เมื่อรถวิ่งหรือพัดลมเครื่องยนต์(engine fan)ของรถหมุนทำงาน

ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักถึงคุณสมบัติของน้ำกันก่อน

น้ำเมื่อได้รับความร้อนจะมีการขยายตัวปริมาตรเพิ่มขี้นเรื่อยๆ

เมื่ออุณหภูมิถึงจุดเดือด (ที่ความดันบรรยากาศระดับน้ำทะเล

อุณหภูมิจุดเดือดของน้ำ =100 องศาC )น้ำจะเปลี่ยนสถานะเป็นก๊าซ

ที่เรียกว่า ไอน้ำ และจะมีคุณสมบัติด้านปริมาตรเพิ่มขึ้นอย่างมากๆ

จนสามารถเอาไปดันลูกสูบในหัวรถจักรไอน้ำให้วิ่งได้อย่างสบาย

เนื่องจากระบบระบายความร้อนรถยนต์

ต้องอาศัยน้ำไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์เพื่อระบายความร้อน

และต้องอยู่ในสถานะของเหลว(น้ำ)ไม่ใช่ก๊าซ(ไอน้ำ)

ดังนั้นจะมีปัญหาแน่ๆหากอุณหภูมิเครื่องยนต์สูงขึ้นเรื่อยๆ

จนถึงจุดเดือดของน้ำ น้ำจะเดือดกลายเป็นไอระเหยออกไปหมด

ดังนั้นต้องทำระบบให้เป็นระบบปิดเสีย หม้อน้ำจึงต้องมีฝาปิด(radiator cap)

และต้องเป็นฝาปิดพิเศษที่ทนต่อแรงดันน้ำได้ระดับหนึ่ง

จากปริมาตรน้ำที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากความร้อน

นอกจากนี้น้ำยังมีคุณสมบัติอีกข้อ

ถ้าความดัน(ในระบบ)สูงขึ้นค่าจุดเดือดของน้ำจะสูงขึ้น

อย่างไรก็ตามฝาปิดหม้อน้ำก็เป็นแบบนิรภัย ถ้าความดันผิดปกติสูงถึงค่าหนึ่ง

ก็จะไม่สามารถรักษาความดันได้ต้องระบายแรงดันออกมา

มิฉะนั้นเหมือนกับมีระเบิดรอวันประทุอยู่ในรถยนต์

ส่วนน้ำที่ล้นจาก

หม้อน้ำจะมีท่อต่อจากหม้อน้ำ ไปเก็บที่กระปุกพักน้ำ(coolant reservoir)

แต่รถบางรุ่นไม่มีฝาหม้อน้ำ เช่น Mondeo,Escape แต่มีท่อเข้าและออกต่อ

เป็นระบบปิดต่อไปยังกระปุกพักน้ำ(ทนแรงดันสูง) ซึ่งจะมีฝากระปุกแรงดันสูง

และมีวาล์วนิรภัยแบบเดียวกับฝาปิดหม้อน้ำรถทั่วไป แต่จะไม่มีท่อน้ำล้นอีก

ดังนั้นการเติมน้ำหล่อเย็นลงในกระปุก ต้องเติมตามสเปค

อย่าให้เกินขีดที่กำหนด

ต้องเหลือที่ว่างสำหรับการขยายปริมาตรของน้ำหล่อเย็น

แล้ววาล์วน้ำ

(thermostat)ทำหน้าที่อะไร? เมื่อเครื่องยนต์ทำงานปั้มน้ำจะหมุน

เพื่อจะให้น้ำในระบบระบายความร้อนหมุนวนเพื่อถ่ายเทความร้อน

แต่น้ำจะไหลไปติดตรงวาล์วน้ำ

ต้องมารู้ก่อนอีกว่าเครื่องยนต์จะทำงานได้ดีที่อุณหภูมิร้อนน้อยๆค่าหนึ่ง

ถ้าอุณหภูมิต่ำไป เช่น ตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ๆตอนเช้า

เครื่องยนต์จะมีการเสียดทานสึกหรอสูง

ดังนั้นในขณะที่อุณหภูมิเครื่องยนต์ร้อนไม่ถึงอุณหภูมิการทำงาน

วาล์วน้ำจะปิดไม่มีการไหลเวียนของน้ำ

ไประบายออกที่หม้อน้ำเพื่อให้อุณหภูมิสูงขึ้นโดยเร็ว

แต่เมื่ออูณหภูมิสูงถึงค่าหนึ่ง วาล์วน้ำก็จะเปิดให้เกิดการไหลเวียนของน้ำ

ส่วน

น้ำยาหล่อเย็นที่ผลิตเพื่อผสมกับน้ำในหม้อน้ำนั้น จะช่วย

ป้องกันการเกิดสนิม ป้องกันการเกิดตะกรัน

ป้องกันน้ำเป็นน้ำแข็งในประเทศเมืองหนาว และ

บางแบบคุยว่าช่วยเพิ่มจุดเดือดของน้ำให้สูงขึ้นถึง 126 องศาC

ก็หมายความว่า(แม้หากเปิดฝาหม้อน้ำไว้)อุณหภูมิเครื่องยนต์ถึง 100 องศาC

น้ำที่ผสมน้ำยาก็ยังไม่เดือด จนกว่าจะถึง 126 องศาC

อย่างไรก็ตามน้ำยาเติมหม้อน้ำก็ควรใช้ตามอัตราส่วนให้ถูกต้อง

ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเติม 50% ต่อน้ำ 50% หรืออัตราส่วน 1:1 นั่นเอง

แต่ก็มีน้ำยาแบบผสมเสร็จแล้วใช้อยู่ตามศูนย์ฯ ไม่ต้องไปผสมกับน้ำอีก

แต่คำนวณราคามักจะแพงกว่า และยังต้องระวังน้ำยาเติมหม้อน้ำบางชนิด

มีผลเสียอันตรายต่อหม้อน้ำชนิดอลูมิเนียม

(หม้อน้ำอลูมิเนียมระบายความร้อนดีกว่าเหล็กหรือทองแดง)

 
คราวนี้มาดูปัญหาเข็มความร้อนขึ้น มีสาเหตุ

1.ชุดเข็มความร้อน หรือ ตัวรับอุณหภูมิ(temperature guage sender  Assassin's Creed Revelations Black Friday Deals)เสียทำ

ให้แสดงค่าผิดไป

2.หม้อน้ำสกปรกภายนอก ครีบพับงอ อากาศภายนอกระบายผ่านได้ไม่ดี

3.หม้อน้ำตันภายใน การไหลเวียนของน้ำมาระบายความร้อนจึงไม่ดี

4.พัดลมเสีย หรือ ทำงานไม่ครบทุกจังหวะspeed

5.วาล์วน้ำเสีย ไม่ยอมเปิดให้น้ำไหลเวียนมาระบายความร้อนออกที่หม้อน้ำ

6.ปั้มน้ำเสียชำรุด ไม่สามารถทำให้น้ำในระบบไหลวน

7.น้ำแห้งจากสาเหตุต่างๆ เช่น ท่อน้ำแตกรั่วทั้งที่รั่วตามท่อภายนอกหรือรั่วภายในตัวเครื่องยนต์

ปัญหาน้ำเดือดล้น

1.ปิดฝาหม้อน้ำไม่แน่น น้ำล้นออกมาได้ (ถ้าไม่มีน้ำยาเติมหม้อน้ำ)อุณหภูมิ

100 องศาC น้ำก็เดือด เป็นไอ ขยายปริมาตรเพิ่มความดันดันน้ำล้นออกมา

หรือหากไปบนเขาสูงๆที่ความดันบรรยากาศต่ำ อุณหภูมิไม่ถึง 100 องศาC

น้ำก็เดือดแล้ว

2.ฝาปิดหม้อน้ำเสียชำรุด อากาศรั่วผ่านได้ ทำให้ไม่สามารถรักษาความดันในระบบได้ ก็เป็นแบบเดียวเหมือนข้อ1.

3.มีสาเหตุทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป จนถึงจุดเดือดทีอุณหภูมิสูงแล้ว

จนแรงดันในระบบสูงเกินกว่าข้อจำกัดของฝาหม้อน้ำ เช่น หม้อน้ำตัน

ปั้มน้ำเสีย

Mor

  • Type3
  • ***
  • กระทู้: 384
  • คะแนนพิษสวาท +1/-1
Re: หม้อน้ำเดือด เข็มความร้อนขึ้น...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2012, 07:55:46 AM »
อาการฝาสูบโก่งเปิดจากเครื่องโอเวอร์ฮีด ไม่เกี่ยวหรอกครับว่าจะขับเร็วหรือช้า โดยปกติเครื่องยนต์ของรถจะมีระบบน้ำหล่อเย็นไหลวนเข้าไปบริเวณฝาสูบ

ด้วยเพื่อลดอุณหภูมิ หากวาล์วน้ำ หรือปั๊มน้ำไม่ทำงาน น้ำในหม้อน้ำก็ไม่อาจไหลเวียนได้ ทำให้ความร้อนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้ฝาสูบโก่งในที่สุด วิธีการ

ตรวจสอบคร่าว ๆ คือ สตาร์ทเครื่องตอนที่เครื่องเย็น เปิดฝาหม้อน้ำออก หากฝาสูบโก่ง จะมีน้ำดีดขึ้นมา  รถที่ฝาสูบโก่งจะมีอาการน้ำในหม้อ

น้ำขาดด้วย ต้องเติมบ่อย ๆ ตัวฝาสูบเองสามารถนำไปปาดได้ ไม่ต้องเปลี่ยน แต่ต้องดูเสื้อสูบด้วย ว่ามีอาการกร่อนร่วมด้วยหรือไม่ หากโชคดีเสื้อสูบไม่

กร่อนก็ยังไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องครับ

Mor

  • Type3
  • ***
  • กระทู้: 384
  • คะแนนพิษสวาท +1/-1
Re: หม้อน้ำเดือด เข็มความร้อนขึ้น...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2012, 08:01:30 AM »
วีธีตรวจสอบด้วยตัวเอง เบื้องต้น:

1.เปิดฝาหม้อน้ำและดูว่ามีคราบน้ำมันปนเปื้อนอยู่กับน้ำในหม้อน้ำหรือไม่?

2.ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง และดูว่ามีน้ำปนเปื้อนกับน้ำมันเครื่องหรือไม่?

3.เปิดฝาหม้อน้ำไว้ แล้วสตาร์ตรถ และดูว่า ในจังหวะสตาร์ตรถ น้ำในหม้อน้ำกระฉอกขึ้นมาหรือไม่?


-ถ้าตรวจสอบทั้ง 3 ข้อแล้วปรากฎว่าคำตอบเป็น ใช่ ทั้งหมด ก็สันนิฐานเบื้องต้นได้ว่าฝาสูบน่าจะโก่งหรือประเก็นฝาสูบแตก ให้ช่างตรวจสอบอย่าง

ละเอียดต่อไป

-ถ้าตรวจสอบทั้ง 3 ข้อแล้วปรากฎว่าคำตอบเป็น ไม่ใช่ ก็สันนิษฐานได้ว่าฝาสูบไม่น่าจะโก่งหรือประเก็นฝาสูบไม่น่าจะแตก

หมายเหตุ

1.ฝาสูบโดยส่วนใหญ่จะไม่โก่งกันง่ายๆ

2.ฝาสูบจะโก่งก็ต่อเมื่อรถเกิดความร้อนขึ้นสูงเป็นเวลานานๆ จนเครื่องดับไปเองหรือเติมน้ำลงในหม้อน้ำขณะที่เครื่องยังเย็นตัวไม่พอ

ปล.

1.เรื่อง ความร้อนที่ผิดปกติเนี่ย อาการพื้นฐานจะคล้ายๆกัน แต่ถ้าไล่ check อาการโดยละเอียดแล้วจะพบว่า อาการนั้นๆเกิดจากอุปกรณ์ตัวใด โดยไม่

ต้องสุ่มเปลี่ยนอุปกรณ์ไป

2.เรื่องการเปลี่ยนฝาสูบ อยากให้จัดไว้ท้ายสุด ให้ check จนแน่ใจจิงๆว่า เป็นที่ฝาสูบ แล้วจึงค่อยเปลี่ยน

3.ถ้าต้องเปลี่ยนฝาสูบแน่ๆ แนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นของมือสองหรือปาดฝาสูบเดิม