ถ้าเป็นไปได้คงไม่มีใครอยากขับรถที่ฝุ่นเขรอะ สีรถหมองไม่ชวนมองหรอกจริงมั้ย? ซึ่งโดยปกติแล้วสีของรถที่ออกมาจากโรงงานสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเจ้าของรถละเลยไม่ดูแล โอกาสที่สีจะเสื่อมสภาพเร็วก่อนเวลาอันควรก็มีสูง
1.ไม่ควรปล่อยทิ้งรถให้เลอะฝุ่นโคลนเป็นเวลานานๆ เพราะคราบโคลนจะทำให้สีผิวรถเสื่อม รวมทั้งอาจทำให้สารเคมีที่ติดอยู่ในโคลนซึมลึกเป็นอันตรายต่อสีรถ จนเกิดเป็นรอยด่างบนพื้นผิวรถได้
2.หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้งโดนแดดแรงๆ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรหาผ้าคลุมรถสักหน่อย และไม่ควรล้างรถขณะที่ผิวรถยังร้อนจัด
3.ล้างรถให้ถูกวิธี โดยเริ่มจากการปัดฝุ่นที่อยู่บนรถก่อนสัก 1 รอบ หลังจากนั้นจึงเริ่มล้างรถไล่จากด้านบนลงมาด้านล่างของตัวรถ สิ่งสำคัญอยู่ที่การใช้ผ้าสะอาดเนื้อนุ่มและน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างรถที่ต้องเลือกให้เหมาะสม สุดท้ายคือเช็ดรถให้แห้งทันที ไม่ปล่อยให้รถแห้งเองเพราะจะทำให้รถเป็นรอยด่างน้ำตลอดคัน
4.เคลือบสีรถยนต์กันฝุ่น หลังจากล้างรถจนสะอาดและเช็ดพอหมาดๆ ให้เทน้ำยาเคลือบสีรถใส่ผ้านุ่มๆ แล้วเริ่มเช็ดวนเป็นก้นหอยให้ทั่วรถ หลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วค่อยเช็ดออก วิธีนี้จะช่วยให้สีรถจะไม่กรอบแตก ทนต่อภาวะต่างๆ ได้ดีขึ้น
Be Careful: สารเคมีที่อยู่ในน้ำมันเบรก น้ำมันเชื้อเพลิง และทินเนอร์ เป็นสารเคมีที่อาจทำให้รถเป็นรอยด่าง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงให้สารเคมีเหล่านี้สัมผัสกับตัวรถจะดีกว่า
ข้อแนะนำเพิ่มเติม: ก่อนออกเดินทางทุกครั้งอย่าลืมเช็กด้วยว่า รถของคุณได้ทำประกันภัยรถยนต์และประกันยังไม่หมดอายุ เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจว่าประกันภัยจะช่วยแก้ปัญหาและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่คุณได้ค่ะ