ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องของ ยาง  (อ่าน 7429 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Morgan

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องของ ยาง
« เมื่อ: มกราคม 13, 2012, 12:46:07 PM »
ยางรถยนต์เป็นผลิตภัณฑ์ยางที่เราพบเห็นได้ทั่วไปถูกผลิตขึ้นให้มีสมบัติที่เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละประเภทล้อยางรถบรรทุกก็ควรมีสมบัติที่ทนทานและรับน้ำนัก

บรรทุกได้มาก มีการทรงตัวที่ดีซึ่งแตกต่างจากล้อยางของรถยนต์นั่งที่มุ่งแน่นในเรื่องของความนุ่มนวลในการขับขี่ การทรงตัว การยึดเกาะถนนและความทนทาน

เป็นอันดับรองลงมา

แต่เดิมยางรถยนต์ผลิตจากยางธรรมชาติหรือแรกว่ายาง NR (naturalrubber) ปัจจุบันมีการนำยางสังเคราะห์ประเภทยาง SBR

(styrenebutadienerubber) และยาง BR (butadiene rubber) มาผสมด้วยเพื่อปรับปรุงสมบัติของยางธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น บริษัทผลิตยางรถยนต์ต่างแข่ง

ขันกันวิจัยค้นคว้าเพื่อให้ได้ยางที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยปรับปรุงสมบัติเรื่องการทนความร้อนและน้ำมัน การยึดเกาะผิวถนน ความต้านทานการหมุนที่ต่ำลง   

ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมทั้ง ความสามารถในการ   “run-flat”     ซึ่งถ้าแปลตรงๆจะมีความหมายว่า“รถยนต์ยังคงวิ่งได้แม้ยาง

แบน”กล่าวคือ ความสามารถในการที่ล้อยางทำให้รถยนต์ยังคงวิ่งอยู่ได้ ถึงแม้ว่าลมจะรั่วออกมาจากยางแล้วก็ตาม การผลิตยางที่มีสมบัติ fun - flat นี้ใช้   

เทคนิคการเคลือบผิวใต้ดอกยางด้วยวัสดุ “sealant” ที่สามารถอุดรอยรั่วเล็กๆได้หรือเรียกว่า“self-sealing”หรือใช้วิธีเสริมด้วยวัสดุแข็งที่ผนังด้านในของแก้ม

ยางเพื่อพยุงล้อไว้ที่เรียกว่า “self-supportiong” นอกจากนั้นเทคโนโลยีใหม่ที่รวมตัวล้อเข้ากับยางให้เป็นชิ้นเดียวกันหรือ“auxiliary supported run   

system” ซึ่งเป็นล้อที่มีรถยนต์ที่มีวงแวนรองรับยางก็มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้ผลิตยางrun – flat ในอนาคต

ยางรถยนต์ที่มองดูแล้วเหมือนทำมาจากยางล้วนๆนั้นแท้จริงเป็นวัสดุผสมหรือวัสดุโพสิต (composites) คือมีการพันเส้นใยไนลอน โพลิเอสเทอร์หรือใยเหล็ก   

เข้ากับเนื้อยางเพื่อขึ้นโครงเรียกว่าชั้นโครงผ้าใบ ถ้าสังเกตชื่อภาษาอังกฤษของยางธรรมดา (bias ply tire)และยางเรเดียล(radial piy tire)จะเห็นมีคำว่า   

“ply” แทรกอยู่ ply คือเส้นใยในชั้นโครงผ้าใบนั้นเอง ยางเรเดียลมีการถักทอเส้นใยดังกล่าวไปในแนวตั้งฉากกับเส้นรอบวงของ ล้อยางเพื่อการรับแรงในแนวเส้น

รอบวง แตกต่างจากยางธรรมดาที่เรียงไขว้กันเป็นมุม 30 – 40 องศา ยางเรเดียลบางรุ่นนิยมใช้แผ่นเหล็กกล้าเป็นแผ่นรองรับเพื่อเสริมความแข็งแรงและช่วยให้

หน้ายางแบนไปกับพื้นถนนอีกด้วย

ลวดลายตามเส้นรอบวงด้านหน้ายางเรียกว่า “ดอกยาง(tread)” มีลักษณะเป็นร่องและคดหยักรูปฟันปลา รอยหยักจะช่วย รีดน้ำ ให้ไหลผ่านล้อไปทางด้าหลัง   

ช่วยให้ล้อหมุนไปบนถนนที่เปียกแฉะและยังยึดเกาะถนน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับทิศทางของรถได้ แต่หากไม่มีดอกยางเพื่อยึดเกาะถนนการบังคับทิศทางของ

รถในขณะที่วิ่งไปบนถนนที่เปียกแฉะนั้นทำได้ยากมาก

อย่างไรก็ตามดอกยางจะไม่จำเป็นเลยหากพื้นถนนแห้งสนิทดังเช่นสนามแข่งรถ ล้อรถแข่งใช้ยางชนิดที่ไม่มีดอกยางชนิดที่ไม่มีดอกยางและมีหน้ายางกว้างมาก

พิเศษ ผิวหน้ายางสัมผัสพื้นถนนได้มาก ทำให้เกาะถนนได้ดีกว่ารถธรรมดาทั่วไป แต่หากถนนที่ใช้แข่งเปียกแฉะ รถแข่งก็ต้องเปลี่ยนยางมาเป็นชนิดที่มีดอกยาง

แทน ดอกยางเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรงจึงออกแบบลวดลายให้เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพถนนต่างๆ เช่น ล้อยางสำหรับวิ่งบนหิมะจะออกแบบลวด

ลายให้มีร่องลึกอย่างน้อย 25 เปอร์เซนต์เพื่อผิวหน้าของล้อมีช่องว่างที่จะหมุนตีผ่านหิมะไปได้ ล้อยางพิเศษรุ่นหนึ่งสามารถวิ่งบนพื้นที่เปียกในอ่างน้ำหรือ

โคลนได้อย่างสบายเพระมีลวดลายดอกยางเป็นร่องลึกตรงกลางในแนวยาวรอบล้อยางเพื่อเป็นทางให้น้ำจากใต้ล้อไหลพุ่งผ่านออกไปและยังยึดเกาะถนนได้ดี

ดอกยางที่ผ่านถนนมาหลายสายและถูกใช้งานมานานลวดลายจะสึกและลบเลือนแต่ก็ยังสามารถทำลวดลายได้ไหมเรียกว่าการทำ “retread” ร้านขายอะไหล่ยาง

รถยนต์จะนำยางเก่าที่ดอกยางสึกแล้วไปรีไซเคิลด้วยวิธีกันนี้นั่นเอง

ยางรถยนต์มีส่วนที่เรียกว่าแก้มยาง (side wall) ซึ่งแสดงตัวเลขข้อมูลของยางที่ผลิตออกมาแต่ละเส้นว่าเป็นยางสำหรับรถยนต์ประเภทใด บอกความกว้างโดยวัด

ระยะระหว่างแก้มยางทั้ง 2 ข้างค่า “aspect ratio” ที่แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของความกว้าง ถือว่าเป็นยางที่มีประสิทธิภาพดีนอกจากนั้น ยังมีตัวอักษรแสดง

ประเภทของยางว่าเป็นยางเรเดียลหรือยางธรรมดา ความยาวเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องว่างตรงกลางล้อ ความสามารถในการแบกรับน้ำหนัก ความเร็วสูงสุดที่รถวิ่ง

ได้ และนอกจากยี่ห้อและรุ่นแล้วสำหรับรถโดยสารจะมีข้อมูลความทนทานของดอกยางสัญลักษณ์ของ “traction” คือ ความสามารถในการหยุดรถบนพื้นถนน

คอนกรีตหรือยางมะตอยที่เปียกและอัตราการกระจายความร้อนของยางแสดงไว้ด้วย

vw-angle

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องของ ยาง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 15, 2012, 05:54:12 AM »
 :d16c4689:

bigarate

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องของ ยาง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 16, 2012, 10:38:48 PM »
เค้าเพิ่งเปลี่ยนยางใหม่ไปไม่ทันเลยอ่าา :0eeeff42:
เก็บข้อมูลไว้ :17f0f3b0:

b13

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องของ ยาง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2012, 09:43:24 PM »
 :baa60776: