หากพูดถึงรถที่ได้รับความนิยมของ "นักการเมือง" นอกจาก "รถเก๋งหรูหรา ราคาแพง" แล้ว ยังมีรถอีกประเภทที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันคือ รถตู้ เพราะทุกครั้งที่มีการประชุมสภา พวกเราจะเห็นนักการเมืองลงมาจากรถตู้กันหลายคนผ่านจอทีวี ทั้งนี้เป็นพราะความกว้างขวาง ใหญ่โต นั่งสบาย และบางคันมีการตกแต่งห้องโดยสารให้โอ่โถงระดับเฟิร์สคลาส เพื่อใช้เป็นห้องทำงานและพักผ่อน ….ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้นักการเมืองเลือก "รถตู้" เป็นรถประจำตัว และยี่ห้อที่นิยมซื้อหาคงหนีไปพ้นรถตู้ "โฟล์คสวาเกน"(VOLKSWAGEN)" ......หลายคนสงสัยรถตู้โฟล์ค มีดีอะไร อย่างไร เราจะไปไขความลับถึงที่มา-ที่ไป รถขวัญใจนักการเมืองไทยระดับนายกฯ รองนายกฯ ไปจนถึงส.ส.แบบเจาะลึกถึงกึ๋นกันเลย....
**นักการเมืองไทยทำไมต้องรถโฟล์คตู้**
จากการทำตลาดในประเทศไทยมากว่า 25 ปีทำให้รถโฟล์คตู้ ได้รับความไว้วางใจจากเหล่านักธุรกิจและนักการเมืองมากมาย ปัจจุบันมีวิ่งในประเทศไทยประมาณ 5,000 คัน รุ่นใหม่ล่าสุดคือคาราเวล ทีดีไอ 2.0 มียอดจำหน่ายไปแล้วกว่า 700 คัน นายสิทธิชัย ผ่องเมฆินทร์ ผู้จัดการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป ผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน
"เริ่มแรกที่เราเข้ามาทำตลาดในไทยยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่ารถตู้ทั่วๆไปยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด แต่เมื่อเรารู้ถึงความต้องการของลูกค้าที่เน้นรถอเนกประสงค์ จึงนำมาเติมความสะดวกสบายแบบหรูหรา อีกทั้งรวบรวมความบันเทิงแบบครบครันใส่ไว้ในรถคันเดียว ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม นอกจากนี้โฟล์คยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ เราสามารถตกแต่งรถได้ตามความต้องการของลูกค้า เรียกว่าเหมือนบ้านเคลื่อนที่เพราะรถประเภทนี้จะแต่งได้มากกว่ารถยนต์ทั่วๆไป อีกทั้งบริษัทฯเราไม่ได้แต่งเอาเท่ห์แต่เน้นความหรูหรา สะดวกสบาย บวกความอเนกประสงค์มากกว่า
ส่วนความนิยมในหมู่นักการเมืองนั้นเริ่มที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้สั่งซื้อรถโฟล์คตู้จำนวนมากเพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจต่างๆตามต่างจังหวัดที่ใช้เวลาเดินทางไม่ไกลมากนัก ทำให้มีนักการเมืองหลายคนถูกใจสั่งซื้อใช้เป็นการส่วนตัว จึงทำให้รถโฟล์คตู้เป็นที่นิยมของลูกค้ากลุ่มนักการเมืองนับตั้งแต่นั้นมา"
**โฟล์คกันกระสุนนายกฯ 2 คัน 7.8 ล้านบาท**
สำหรับนายกหญิงคนแรก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เธอมียานพาหนะอยู่ 8 คัน มูลค่า 18 ล้านบาท และในจำนวนดังกล่าวมีรถโฟล์คตู้รวมอยู่ 2 คัน รุ่นคาราเวล ทีดีไอ ดีเซล สีเทาและสีดำ รวมราคา 7,800,000 บาท (ยังไม่รวมค่าตกแต่งพิเศษและระบบกันกระสุน) ที่สำคัญทะเบียนรถทั้งสองคันยังให้โชคกับคอหวยมาหลายงวดติดกันแล้ว
โดยภายในได้รับการตกแต่งให้มีความสะดวกสบาย หรูหรา โอโถ่ง เบาะหนังสั่งทำพิเศษโทนสีเบจเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้หญิงหมายเลข 1 ของประเทศ พร้อมเก้าอี้ไฟฟ้าภายในห้องโดยสาร 4 ตัว หมอนหนุนสะโพกช่วยให้ผ่อนคลายยามเมื่อยล้า และเพียบพร้อมด้วยความบันเทิงกับจอแอลซีดีขนาดใหญ่ เครื่องเสียงมินิเธียร์เตอร์
ที่สำคัญคือระบบกันกระสุนนั้นได้รับการติดตั้งจากบริษัทใหญ่ที่ขายอาวุธให้กองทัพมานานหลายปี ทั้งนี้บอกไม่ได้ว่ารถกันกระสุนคันนี้มีขีดความสามารถระดับใด เพราะถือเป็นความลับสุดยอด แถมมีรายละเอียดทางเทคนิคจำนวนมาก แต่โดยคร่าวๆรถของนายกฯยิ่งลักษณ์มีกระจกไฟฟ้า 2 ชั้น กั้นระหว่างตอนหน้า (ผู้ขับ) กับเบาะ 2 ตอนหลังทำจากพลาสติกคุณภาพสูงจากเยอรมันนีสามารถช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ ตัวถังสามารถป้องกันการโจมตีจากอาวุธหนัก รอยต่อและร่องต่างๆผ่านการซีลแบบพิเศษ ป้องกันการทะลุทะลวงของกระสุนและการโจมตีด้วยแก๊สพิษ ยางรถยนต์ที่ใช้ออกแบบมาให้ทนทานและกระจกนิรภัยหนามากกว่าหนึ่งนิ้วขึ้นไป นั่นหมายรวมถึงราคาที่ต้องบวกเพิ่มไปอีกไม่ต่ำกว่าหลายล้านบาทต่อคัน
**แต่งรถตามใบสั่ง**
ไม่ใช่แค่รถโฟล์คตู้ของนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา บรรดารัฐมนตรีอีกหลายคนในชุดนี้ก็พิสมัยในการตกแต่งรถเช่นกัน คล้ายบ้านเคลื่อนที่มีพร้อมทุกอย่าง บางคนใช้เป็นห้องทำงาน แต่การตกแต่งนั้นอาจจะต้องใช้เงินไม่น้อยอย่างรถโฟล์คของนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ตกแต่งเบ็ดเสร็จปาเข้าไปหลายล้านบาท จากราคารถ 3 ล้านปลายๆ รวมถึงนายสาธิต วงศ์หนองเตย กรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นางกุสุมา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ฯลฯ คาดว่าลูกค้าที่เป็นระดับนักการเมืองนั้นมีมากกว่าครึ่งของรัฐบาลชุดนี้
ส่วนการตกแต่งรถรถโฟล์คตู้ที่นิยมมากสุดในหมู่นักการเมืองคือการแตกแต่งแบบวีไอพี เริ่มตั้งแต่เบาะหนังชนิดพิเศษ กรุภายในแบบสวยงาม เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ หรือใครชอบแนวสปอร์ตก็ตกแต่งติดชุดแต่งรอบคันเต็มที่ ไล่มาตั้งแต่เสกิร์ตด้านข้าง ชุดสเกิร์ตหลังพร้อมติดตั้งท่อไอเสียคู่ ซ้าย-ขวา และปีกเหนือกระจกหลังสไตล์รถแข่ง เสริมความหรูหรา ด้วยชุดล้อแม็กอัลลอย รวมถึงสีของตัวรถที่สั่งทำพิเศษราคาจะเริ่มตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านบาทแล้วแต่ฐานะเจ้าของรถและอุปกรณ์ที่ใช้ว่าผลิตในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ
สำหรับสีขายดีตลอดกาลคือ สีดำ รองลงมาเป็นสีเทา และสีบรอนซ์รั้งท้ายมา แต่ใช่ว่าจะมีเพียงแค่รถโฟล์คตู้เท่านั้นที่เป็นขวัญใจนักการเมืองไทยเพราะตอนนี้มีคู่แข่งหลายคันไล่ตามมาติดๆไม่ว่าจะเป็น ฮุนได แกรนด์ สตาเร็ค วีไอพี , เมอร์เซเดส-เบนซ์ วีโต้ และโตโยต้า อัลฟาร์ด แต่ตัวเลือกอันดับหนึ่งยังคงเป็น "รถโฟล์คตู้"ครองแชมป์อีกหลายสมัยแน่นอน.....
