ผู้เขียน หัวข้อ: เบาะรถแต่งและเบาะรถแข่ง  (อ่าน 1959 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Far

  • บุคคลทั่วไป
เบาะรถแต่งและเบาะรถแข่ง
« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 05:56:44 AM »
เบาะรถแต่งและเบาะรถแข่ง

การแต่งรถนอกจากจะแต่งภายนอกให้สวยแล้ว ภายในก็ต้องสวยด้วย บางท่านคิดว่าเห็นรถแต่งวิ่งผ่านมาภายนอกก็ดูสวยดี ภายในใส่เบาะอะไรก็ไม่รู้ สีแดงบ้าง น้ำเงินบาง ล้วนดูสะดุดตาหรือต้องการแต่งเพื่อโชว์สาวหรือปล่าวไปซื้อแต่งบ้างดีกว่า พอไปดูราคาแทบตกใจหงายผึ่งราคามันช่างแพงเหลือเกิน มีตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ จนถึงแสนต้นๆ ต่อตัว ทำไมมันถึงแพงอย่างนั้นจริงๆแล้ว เบาะจำพวก racing หรือเบาะรถแต่งมีความสำคัญนอกจากความสวยความงามแล้วยังมีประโยชน์อีกมาก

เบาะ racing มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ

semi backetseat เป็นเบาะที่ปรับได้และพับได้สามารถปรับการเอนหลังให้ผู้ขับขี่ขับได้สบายที่สุดเหมาะกับรถสปอร์ตสองประตูที่ต้องพับเบาะลง
เพื่อให้คนที่นั่งเบาะหลังได้ขึ้น – ลง แบบนี้ มักออกแบบโดยมีโครงสร้างภายในเป็นเหล็กลวดขึ้นรูปเป็นโครงเบาะ ใส่ชุดกลไกลที่จะพับเบาะขึ้นลงไว้ที่ฐานเบาะและชุดปรับเดินหน้า–ถอยหลังไว้กับชุดรางเบาะ แบบนี้มีโครงสร้างคล้ายเบาะธรรมดาทั่วๆไป แต่จะต่างที่วัสดุที่แข็งแรงกว่า น้ำหนักเบากว่า และออกแบบได้เหมาะกับสรีระของคนขับมากกว่า

อีกแบบคือ แบบ fully bracketseat คือ เบาะที่ไม่สามารถปรับเอนนอนได้ เหมาะกับรถที่ใช้ในการแข่งขันและรถที่ไม่ต้องการพับเบาะสำหรับขึ้นลง แบบนี้วัสดุ มีหลายประเภท เช่น แบบโครงเหล็กขึ้นรูปแล้วใช้ผ้าเบาะหุ้มนอก และแบบขึ้นรูปด้วยวัสดุ เช่น พลาสติกฉีดขึ้นรูป หรือไฟเบอร์ชนิดต่าง เช่น
คาร์บอนไฟเบอร์ มีหลายเกรด แล้วแต่เทคนิคของ แต่ละผู้ผลิต พวกนี้จะมีความแข็งแรงมากกว่าและมีน้ำหนักเบากว่ามาก
   
ประโยชน์
เบาะ racing นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์เช่นให้การขับขี่ที่ดีกว่าเนื่องมาจากเบาะพวกนี้ได้รับการออกแบบมาดีกว่าของโรงงาน เช่นการโอบรัดผู้ขับขี่ให้เข้ารูปและได้สรีระกับผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการขับขี่เพิ่มขึ้น สามารควบคุมรถได้ดีขึ้น และ จากวัสดุที่ดีกว่าทำให้นั่งสบายกว่าเบาะเดิมที่มาจากโรงงาน จนบางโรงงานต้องใช้เบาะ racing มาใช้ในรถสปอร์ท และ รถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงมีน้ำหนักเบากว่า เหมาะกับพวกรถที่ใช้ในการแข่งขัน เป็นการลดน้ำหนักรถไปในตัว นิยมใช้พวก fully bracketseat ให้ความแข็งแรงสูง เบาะพวกนี้มีความแข็งแรงมาก เพราะต้องโอบกระชับผู้ขับขี่ในยามที่เกิดอุบัติเหตุเบาะพวกนี้สามารถป้องกันอันตรายของผู้ขับขี่ได้ เช่น บางรุ่นมีหูป้องกันการกระแทกศีรษะด้านข้างของผู้ขับ บางรุ่นใช้วัสดุพวก คาร์บอนเคฟล่า ที่มีคุณสมบัติแข็งแรงกว่าเหล็ก ยืดหยุ่นตัวได้ดีแต่น้ำหนักเบาะกว่ามากให้การยึดเกาะถนนได้ดีกว่า เพราะเบาะพวกนี้จะออกแบบมาให้เตี้ยกว่าเบาะทั่วไป ทำให้น้ำหนักของผู้ขับขี่ มีน้ำหนักกดต่ำลงมีผลในการช่วยลดการโยนตัวของรถในขณะเข้าโค้ง ใช้ในการแข่งขันเพราะเบาะพวกนี้ต้องออกแบบมาให้เหมาะกับการแข่งแต่ละประเภท เช่น บางรุ่นเบาะจะมีปีกข้างเดียวใช้ในการแข่งขันรถที่นักแข่งต้องเข้าเกียรบ่อยๆ พวกแรลลี่ พวกที่ใช้ใน NASCARเบาะจะมีปีกกว้างข้างเดียวเพื่อรับน้ำหนักนักแข่งที่ต้องขับรถวนขวา และออกแบบมา ให้ใช้กับเซพตี้เบลท์ แบบ 6 จุด และ 8 จุด พวกนี้จะสามารถล็อคนักแข่งไม่ให้หลุดไปไหนเวลาเกิดอุบัติเหตุ
   
การเลือกซื้อ
ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกซื้อตามลักษณะการใช้งานว่าจะใช้แบบไหน ถ้าต้องการนั่งขับขี่สบาย สามารถขับรถได้นานๆระยะทางไกลๆ ควรเลือกแบบ semi backetseat เพราะสามารถปรับให้เหมาะกับการนั่งได้ แต่ถ้าต้องการการขับขี่ที่ดี กระชับตัว เบา และแข็งแรง ก็คงต้องเลือกแบบ fully bracketseat สมัยนี้เลือกได้ทั้งของใหม่และของเก่าเชียงกง และแบบที่เป็นเบาะทรง racing ที่ติดมากับรถโรงงาน เช่น พวก NISSAN SKYLINE GTR , SUBARU IMPRESA , MITSU FTO , MASDA RX7 ,หรือพวก MITSU EVO และแบบทีผลิตมาจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรงที่นิยมเช่น ของ RECARO , SPARCO ,BUDDY CLUB ,BRIDE , TRD และอีกมาก

การติดตั้งและข้อควรระวัง
เวลาซื้อเบาะควรที่จะซื้อรางเบาะมาให้ตรงกับรุ่นรถของเราเพราะเขาได้ออกแบบมาได้เหมาะ เช่น ตำแหน่งความสูงต่ำ ตำแหน่งตรงกับพวงมาลัย ต่ำแหน่งการปรับเอนตัว ล้วนต้องมีการออกแบบมาทั้งสิ้น แต่ถ้าเป็นเบาะเก่าเชียงกงเบาะส่วนใหญ่จะไม่มีรางมาคงต้องอาศัยการดัดแปลงแต่ต้องดัดแปลงให้
ขาเบาะมีความแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักผู้ขับขี่ ตำแหน่งความสูงต่ำ ตำแหน่งพวงมาลัย และ ต้องเพื่อ การรับน้ำหนักที่จะเพิ่มขึ้นจากแรง G ของรถเวลาออกตัว เข้าโค้ง และเบรก และ ต้องมีความแข็งแรงพอที่จะรองรับการเกิดอุบัติเหตุด้วย