ปัจจุบันนี้ รถยนต์ส่วนใหญ่บนท้องถนนมักใช้เกียร์อัตโนมัติกันทั้งนั้น เนื่องจากความง่ายและสะดวกสบายในการขับขี่ แต่เกียร์อัตโนมัติส่วนมากยังคงมีอัตราสิ้นเปลืองด้อยกว่าเกียร์ธรรมดา เราจึงมาแนะนำ 5 เทคนิคขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติให้ประหยัดน้ำมันแบบง่ายๆกัน รับรองว่าถ้าปฏิบัติได้ตามนี้ รถของคุณจะประหยัดขึ้นอย่างแน่นอน
1. ออกตัวเบาๆไม่ต้องรีบ
เป็นที่รู้กันว่าการจราจรในกรุงเทพมหานคร ไม่เอื้ออำนวยให้ใช้ความเร็วเท่าใดนัก พ้นไฟแดงหนึ่งก็ไปติดอีกไฟแดงหนึ่งอยู่ดี ฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรง เนื่องจากเกียร์ออโต้จะค่อยๆเปลี่ยนอัตราทดตามรอบเครื่องยนต์อยู่แล้ว การฝึกแตะคันเร่งเบาๆจะช่วยให้ประหยัดขึ้นได้มาก สังเกตได้จากเกียร์เปลี่ยนอัตราทดที่รอบต่ำเท่าไหร่ ก็จะประหยัดเพิ่มขึ้นเท่านั้น
2. ขยับนิดหน่อย Walking Speed ก็พอ
หากขับขี่ท่ามกลางสภาวะจราจรที่ติดขัดนั้น หากรถสามารถเคลื่อนตัวได้ทีละนิดๆ ก็ใช้วิธีปล่อยเบรคให้รถค่อยๆเคลื่อนไปอย่างช้าๆก็พอ โดยปกติความเร็วเมื่อปล่อยเบรค (ขณะใส่เกียร์ D) จะค่อยๆขึ้นไปแตะระดับ 10 กม./ชม.ได้สบายๆ ไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งก็ไม่ต้องเหยียบ ประหยัดได้อีกเยอะ
3. หลีกเลี่ยงการคิกดาวน์
การคิกดาวน์ คือ การเหยียบคันเร่งให้หนักขึ้นกว่าปกติ เพื่อให้ลดระดับเกียร์ลงมา ซึ่งจำเป็นกับการเร่งแซงเพื่อให้หนีพ้นสถานการณ์คับขัน แต่การขับขี่ตามจราจรปกติมักไม่ต้องการอัตราเร่งขนาดนั้น ฉะนั้นผู้ขับจึงควรหลีกเลี่ยงการคิกดาวน์พร่ำเพรื่อบ่อยๆ เพราะเท่ากับเป็นการซดน้ำมันอย่างมากเลยทีเดียว
4. เบรคน้อยลง ประหยัดขึ้นเยอะ
การเหยียบเบรคนั้น อาจไม่มีผลโดยตรงต่อการกินน้ำมัน แต่หากเราชะลอความเร็วลงแล้ว ก็คงจำเป็นจะต้องเติมคันเร่งเพื่อให้รถกลับไปยังความเร็วปกติอีกครั้ง ซึ่งส่งผลต่อการกินน้ำมัน ทางที่ดีจึงควรค่อยๆขับไปตามสภาพการจราจรดีกว่า การเว้นระยะคันหน้าอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยลดการเหยียบเบรคได้เป็นอย่างดี แถมยังลดความใจร้อนของผู้ขับได้อีกด้วย ไม่เชื่อลองดูสิ!
5. เกียร์ออโต้ไม่ได้มีแค่ P R N D นะ
แม้ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ แต่ผู้ขับก็ยังควรเลือกตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมต่อการใช้งานขณะนั้น โดยเกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันจะมีสัญลักษณ์ +, - หรือตัวเลข 3-2-1 หรือตัวอักษร S, L ตามแต่ผู้ผลิตจะกำหนดมา ซึ่งตำแหน่งต่างๆเหล่านี้ มีประโยชน์อย่างมากเมื่อยามขับรถขึ้นเนินหรือลงเนิน รวมไปถึงการช่วยชะลอความเร็ว ทางที่ดีผู้ขับจึงควรศึกษาคู่มือการใช้รถเพื่อให้ตำแหน่งเกียร์เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ เช่น การใช้ตำแหน่งเกียร์ L ในการขับรถขึ้นเขา จะทำให้ตัวรถมีกำลังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นด้วย
คำแนะนำที่กล่าวมาเบื้องต้นนั้น จะเห็นได้ว่าการขับขี่รถยนต์ให้ประหยัดขึ้น ต้องอาศัยการขับขี่ที่ไม่รีบร้อน ใช้ความเร็วช้าลง ซึ่งสำหรับบางคนแล้วอาจจำเป็นต้องฝึกให้ชิน ซึ่งหากเราไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนเดินทางขนาดนั้นแล้วล่ะก็ คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งยังเป็นการช่วยถนอมเครื่องยนต์และเกียร์ได้อย่างดีอีกด้วย