เคล็ดไม่ลับ วิธีไล่ฝ้ากระจกรถยนต์
ช่วงที่ฝนตกหรืออากาศเย็นลงหลายคนอาจประสบปัญหาเวลาขับรถยนต์แล้วกระจกหน้าและกระจกหลังเกิดฝ้า ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดีเท่าที่ควร ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ฝ้าที่กระจกรถเกิดจากอุณหภูมิความชื้นภายในและภายนอกรถแตกต่างกัน ฝ้าที่กระจกรถด้านนอก เกิดจากอุณหภูมิภายนอกสูงกว่าภายใน และฝ้าที่กระจกด้านในเกิดจากอุณหภูมิภายในรถสูงกว่าภายนอก วิธีแก้ไขง่ายๆ คือ ปรับเพิ่ม-ลดความเย็นแอร์ให้เกิดความสมดุลกัน การปรับทิศทางช่องลมและความแรงลม การใช้ที่ปัดน้ำฝน ใช้ผ้าเช็ด และการแง้มกระจกให้อุณหภูมิภายในและภายนอกรถเท่ากัน สักพักฝ้าที่เกาะบนกระจกก็หายไป
การไล่ฝ้ากระจกหน้า ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ผู้ขับขี่ก็ต้องกำจัดฝ้านั้นออกไปเพื่อเพิ่มทัศนะวิสัยในการมอง ผู้ขับขี่หลายท่านได้ทำความเข้าใจกับคู่มือการใช้รถเกี่ยวกับฝ้าที่กระจกบังลมหน้า และในคู่มือการใช้รถยนต์ระบุไว้ว่าการไล่ฝ้าด้านในกระจกบังลมหน้าควรปฏิบัติดังนี้
1. ตั้งความแรงพัดลม ไปที่ความแรงตามความต้องการ ยกเว้น OFF (ปิด)
2. ตั้งอุณหภูมิ ไปที่อุณหภูมิตามความต้องการ ยกเว้น OFF (ปิด)
3. ตั้งช่องอากาศเข้า ไปที่รับอากาศภายนอก
การเปิดช่องรับอากาศด้านนอกเข้ามา เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิด้านนอกจะช่วยลดการเกิดฝ้าได้ แต่บางครั้งอาจมีสิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดเข้ามาไปติดที่ตู้แอร์ ส่งผลให้ตู้แอร์อุดตันและเกิดการชำรุดในที่สุด ดังนั้น ทางผู้ขับขี่จะต้องระมัดระวังตรงจุดนี้ไว้ด้วย แต่ถ้าผู้ขับขี่มั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดที่จะมีผลตามมาก็สามารถกระทำได้ตามข้อความข้างต้น
การไล่ฝ้ากระจกหลัง ปุ่มไล่ฝ้า อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น เส้นไล่ฝ้าติดตั้งอยู่ที่กระจกหลัง (เฉพาะรุ่นที่มี) เป็นเส้นลวดที่ทำมาจากนิกเกิลหรือทองแดง โดยฝังอยู่บนผิวหน้าของกระจก เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไปที่ขดลวด จะก่อให้เกิดความร้อนที่กระจก หยดน้ำที่เกิดขึ้นบนกระจกระเหยไป ทำให้มองผ่านกระจกได้อย่างชัดเจน
ในรถยนต์แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป รวมถึงสัญลักษณ์หรือตำแหน่งของสวิทช์ ซึ่งในรถยนต์บางรุ่นสามารถที่จะตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่กระจกแห้งหรือขดลวดร้อนเกินไป แต่ถ้าหากในรถยนต์ที่ไม่มีตัวตัดการทำงาน อันนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้กระจกแตกเสียหายได้ ดังนั้น เมื่อเห็นว่ากระจกแห้ง ก็ควรกดสวิทช์ตัดการทำงานทันที