เปิดไฟฉุกเฉิน เมื่อเบรกกะทันหัน เรื่องดีที่ควรทำหรือเปล่า ???
“เปิดทำไมพี่” ว่าแล้วมีรุ่นน้องคนหนึ่งที่ถามถึง ว่าทำไมมือผมถึงเอื้อมไปยังปุ่มไฟฉุกเฉิน ทั่งที่ตรงหน้ากำลังเสี่ยงอันตรายอย่างมาก เมื่อรถคันหน้าเกิดเบรกกะทันหันอย่างแรง และด้วยสัญชาติญาณ เราก็เบรกตามอย่างรวดเร็วด้วยน้ำหนักที่มากกว่า ทำให้เมื่อมองหลัง ดูรถที่มาเร็วท่าว่า เขาอาจจะเอาตูดเราเป็น ที่หยุดก็เลยจัดการแสดงสัญญาณว่าเราเบรกอย่างเร็วและกะทันหัน เพื่อให้เขาได้รับทราบกัน
ที่จริงแล้ว ประเด็นเรื่องเบรกแล้วกดเปิดไฟฉุกเฉินนี้ ไม่มีใครเคยไถ่ถามมาก่อน ด้วยทุกคนต่างทำในความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างความปลอดปลอดภัยให้กับตัวเอง และคนภายในรถ บางคนใช้การเปิดไฟฉุกเฉิน แต่บ้างก็เรียนแบบมาจากรถบรรทุก โดยเฉพาะรถตู้ท้าคุณขับตาม เมื่อเขาเบรก จะเปิดไฟ ซ้ายที ขวา ที เร็วๆ เพื่อบอกว่าเขาเบรกกะทันหัน
ในแง่หนึ่งไม่มีใครบัญญัติกฎเรื่องการเปิดไฟฉุกเฉินขึ้น เราต่างรู้ดีว่า ไฟฉุกเฉิน หรือ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Hazard light จะใช้ก็ต่อเมื่อรถเราเกิดเสียต้องจอดข้างทางหรือต้องการแสดง ตำแหน่งรถในยามที่จอดในมุมที่คาดว่าอาจจะเป็นอันตรายต่อเราเอง ทว่าปัจจุบันบทบาทไฟฉุกเฉินถูกปลุกขึ้นมาใช้งานมากขึ้นเมื่อคุณเบรกอย่างแรงและรวดเร็ว ในบางรุ่นสวิทช์ไฟฉุกเฉินจะติดขึ้นมาเพื่อบอกเพื่อนร่วมทาง
ไม่มีใครรู้ว่าต้นไอเดีย การเบรกแล้วไฟฉุกเฉินติดขึ้นมา ในชั่วระยะเวลาหนึ่งแบบอัตโนมัติเกิดขึ้น ด้วยสาเหตุอะไร แต่นานมาแล้ว มีการโต้เถียงระหว่าง Mercedes Benz และหน่วยงานความปลอดภัยทางถนนในสหรัฐ NHTSA ที่พูดถึงระบบ Adaptive Brake light System ที่แนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อ 2006 และ การโต้เถียงจบลงที่ NHTSA ยอมให้ขายรถที่ติดตั้งระบบดังกล่าวเบื้องต้นด้วยจำนวนเพียง 5,000 คัน
Mercedes Benz อ้างว่า ระบบ adaptive Brake Light ซึ่งจะทำงานในการกระพริบไฟเบรกเป็นจังหวะเมื่อผู้ขับขี่มีการเบรกแรง สามารถป้องกันการชนท้ายได้มาก
ในขณะที่ นาย เร ไทสัน โฆษกของ NHTSA ในช่วงนั้น เปิดเผยว่า นี่เป็นกรณีคลาสสิคที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เมื่อการวิศวกรรมไปเร็วกว่ามาตรฐานของรัฐ ซึ่งเรายอมรับมันได้
เมื่อปีกลายในจีน มีงานวิจัยที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเบรกและกระพริบไฟฉุกเฉิน หรือ เบรกแล้วไฟเบรกกระพริบเมื่อเปรียบเทียบกับ การใช้ไฟเบรกธรรมดา ออกมาจากมหาวิทยาลัยซิงหัว ในปักกิ่ง ซึ่งทำการวิจัยภายใต้หัวข้อ Effectiveness of Flashing Brake and Hazard Systems in Avoiding Rear-End Crashes
โดยงานวิจัยดังกล่าวเป็นงานวิจัยเชิงทดลองที่นำผู้ขับขี่รถยนต์ในปัจจุบัน และมีประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกัน มาศึกษาการตอบสนองว่า การที่เรากระพริบไฟฉุกเฉิน หรือ เบรกเรากระพริบเมื่อหยุดกะทันหันมีประสิทธิภาพมากกว่าการตอบสนองเมื่อเจอไฟเบรกธรรมดาหรือไม่
จากการวิจัยดังกล่าวที่เกิดขึ้นสดๆเมื่อปีกลาย ได้ข้อสรุปว่า การที่มีสัญญาณกระพริบมากกว่าแค่ไฟเบรกทั่วไป จะทำให้ผู้ขับขี่มีความใส่ใจในการเพิ่มน้ำหนักเบรกและตอบสนองกว่าการใช้ไฟเบรกทั่วไป โดยไฟเบรกกระพริบที่เราพบได้ในรถบางรุ่นนั้น อย่าง Mercedes Benz ที่มาพร้อมระบบ Adaptive Brake Light system สามารถลดเวลาการตอบสนองของผู้ขับขี่กว่าระบบไฟเบรกธรรมดากว่า 1.0-1.5 วินาที แต่ที่สำคัญ งานวิจัยเดียวกันชี้ต่อไปว่า ระบบเบรกที่มีไฟฉุกเฉินติดขึ้นมาถ้าคุณเบรกแรงๆ จะทำผู้ขับขี่รถคันหลังสนใจและใส่ใจในการเบรกมากขึ้น พวกเขาใช้เวลาในการตอบสนองเร็วกว่าถึง 2.0 วินาที หรือ เร็วกว่าระบบไฟเบรกกระพริบ 0.5 วินาที
ซึ่งไม่ว่าอย่างไร มันหมายถึงความปบอดภัยที่มากขึ้นและลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุลดลงในโลกความเป็นจริงและนั่นหมายถึง การที่เราเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อเราเบรกแรงๆ มีผลต่อการตอบสนองของรถที่ตามหลังเรามา ให้เขารู้ว่า ข้างหน้ามีเหตุฉุกเฉินที่เราจำเป็นต้องเบรกกะทันหัน
โดยนอกจากนี้งานวิจัยยังกล่าวต่อไปว่า การที่ระบบเบรกไฟกระพริบมีผลต่อการตอบสนองน้อยกว่านั้น มาจากสีของไฟที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการตอบสนองของผู้ขับขี่ โดยสีส้มไฟเลี้ยวหรือสีอำพัน มีผลต่อการตอบสนอง 0.11 วินาที เมื่อเทียบกับการใช้สัญญาณไฟสีแดง
แม้เราหลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า การเปิดไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหันจะช่วยไม่ให้คนชนท้ายคุณได้ นี่ยังไม่นับว่าคุณกำลังเสี่ยงตาย แล้วยังต้องเอื้อมมือไปกดฉุกเฉิน เพื่อบอกเพื่อนร่วมทางอีกต่างหากอีกต่างหาก ซึ่งในเรื่องนี้คงต้องดูความเหมาะสมว่า คุณควรจะเปิดหรือไม่ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้น
แน่นอนว่าจากการวิจัยล่าสุดจากจีน ก็ชัดเจนว่า การที่เราเปิดไฟฉุกเฉินนั้น สามารถสร้างความปลอดภัยมากขึ้นและกับตัวเราเองในระหว่างการขับขี่ ทว่าท้ายที่สุดแล้วด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีในปัจจุบัน รถที่คุณใช้ อาจจะมาพร้อมระบบไฟฉุกเฉิน ที่ตอบสนองเองอยู่แล้วเมื่อคุณเบรกกะทันหัน ....เพียงแต่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนก็เท่านั้นเอง