ขับรถอย่างไร ไม่ให้ตก “ทางด่วน“
ตกจริง ตกจัง จนกลายเป็นข่าวรายวัน ที่สื่อต่างๆ นำเสนอกันอย่างมันส์กันไปตามๆ ด้วยส่วนหนึ่งก็เพราว่า เรื่องนี้กำลังได้รับความสนใจจากเหตุการณ์ของน้องมายด์ ที่เราได้เคยนำเสนอไปแล้ว เกี่ยวกับทางแยกตัววาย ที่สะพานรัชวิภา ที่เป็นทางต่างระดับ แต่หลังจากนั้นก็ยังมีเหตุการณ์อีกต่างๆมากมาย ที่นำมาสู่อุบัติเหตุลอยฟ้าที่อาจจะพามาถึงความเสี่ยงต่อคนข้างล่างก็ได้
เรื่องราวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนทางด่วนในบ้านเรานั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะหลายต่อหลายครั้งที่เราได้พบพานเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือว่า เราจะมีวิธีป้องกันอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ทาง และสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้คือข้อควรตระหนักว่า เราจะมีวิธีการขับและป้องกันอย่างไรบ้าง
1. รู้จักเส้นทางและที่หมาย นี่คือข้อสำคัญมากสำหรับการขับรถ ในเมืองกรุงที่วุ่นวายเพราะ การไม่รู้จักเส้นทางนอกจากจะพาให้เปลืองทั้งเวลาและน้ำมันที่แสนแพงแล้ว ยังอาจจะทำให้คุณสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับบนทางด่วน ที่ค่อนข้างใช้ความเร็วถ้าคุณลังเลบางที นึกได้อีกทีอาจจะไม่ทันการก็ได้
2. สภาพรถพร้อมหรือไม่ หลายครั้งที่เราทุกคนคิดว่ารถยนต์ของเราไม่มีปัญหาแต่ เราไม่มีทางรู้จนกว่าที่เราจะใช้ความเร็วในการขับขี่ สภาพรถถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากที่อาจจะก่อปัญหาให้กับการขับขี่ และหากรถอยู่ในสภาพไม่สมประกอบ เราแนะนำว่าใช้ทางธรรมดาน่าจะดีกว่า เอเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหต ทั้งต่อตัวคุณเองและเพื่อร่วมทาง
3. ขับตามกฎ คุณแน่ใจหรือว่ารอดแล้วจากทั้ง 2 ข้อ อาจจะจริง แต่ถ้าในข้อนี้ คือคุณ ก็เตรียมตัวไว้ได้เลย ทุกวันนี้สังคมที่เร่งรีบทำให้หลายคนขับรถเร็วขึ้น ด้วยส่วนหนึ่งสมรรถนะรถดีขึ้น แต่ความรีบของเราทำให้บางครั้งเราก็ลืมนึกไปว่า อันตรายรออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะทางแยกระหว่างทางลงเอง ถือเป็นจุดเสี่ยงที่สำคัญ เพราะ มีโอกาส ที่จะชนกับแผงที่แยกทางได้ และ นี่เองคือจุดอันตราย
4. รู้จักจุดเสี่ยง ในบางครั้งเราต้องยอมรับว่า ถนนที่เราขับมีความอันตรายอยู่มาก การรู้จักจุดเสี่ยงที่สำคัญๆ เป็นการป้องกันในทางหนึ่งต่ออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะ ทางโค้ง ทางร่วมทางแยกต่างๆ ที่มีความชัน หรือทำมุมเยอะ และบังสายตาก็จะช่วยให้เรารู้เท่าทัน และขับขี่อย่างปลอดภัยในพื้นที่เหล่านี้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อาจจะฟังเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนขับรถทั่วๆไป ก็น่าจะทราบกันดี อยู่แล้ว แต่ในขณะที่ทางด่วนอาจจะกลายเป็นประเด็นทางสังคมในแง่ของความปลอดภัยเราก็มิอาจจะลืมได้ว่า บางทีคนขับเองก็เป็นปัจจัยสำคัญในการขับขี่ ดังนั้นก่อนอื่นใด เราไม่ควรขับขี่ที่อาจจะเป็นอันตราย ทั้งต่อตัวคุณเอง และเพื่อนร่วมทาง