ผู้เขียน หัวข้อ: เคยสงสัยไหม สรุปแล้วรถ “อีโค่คาร์“ คืออะไร  (อ่าน 2472 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Far

  • บุคคลทั่วไป
 ทุกวันนี้หลายคนที่กำลังจะซื้อรถคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำพูดกล่าวทั้งจากสื่อต่างๆเกี่ยวกับรถยนต์ "อีโค่คาร์"  ที่แม้ปัจจุบันรถอีโค่คาร์จะกลายเป็นคำที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่เคยสงสัยบ้างไหมว่า รถยนต์ที่เรากำลังพูดถึงนี้เป็นรถยนต์อะไรกันแน่ และวันนี้ ทีมงาน  Sanook! Auto  ก็จะมาทำให้เพื่อนๆเข้าใจกันว่า รถที่เราเข้าใจเป็นอย่างที่เข้าใจกันหรือเปล่านะ

                รถยนต์ "อีโค่คาร์" เป็นรถยนต์ที่เกิดจากนโยบายของภาครัฐบาลเมื่อหลายปีที่แล้ว ที่เล็งเห้นความเป็นไปได้ของราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นตามลำดับในอนาคต ทำให้เกิดแผนในการสร้างรถยนต์นั่งขนาดเล็กขึ้น โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม มากกว่าความประหยัดน้ำมัน แต่ถึงอย่างงั้นทั้งสองสิ่งก็ไปด้วยกันทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ต่อความเข้าใจของคนทั่วไป

รถอีโค่คาร์

                Eco Car  เป็นชื่อเรียกอย่างย่อจากสื่อต่างๆ ที่มาจากคำว่า Ecology Car  หรือรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ตามที่หลายคนเข้าใจว่าคือรถยนต์ประหยัดพลังงานหรือ Economy Car  ซึ่งแม้จะดูเหมือนว่ามีความคล้ายคลึงกันแต่ก็มีความแตกต่างกัน ในแง่ของความหมาย ซึ่งแนวคิดของรถอีโค่คาร์ในบ้านเรานั้น ต้องปฏิบัติตามกฏที่สำคัญหลายข้อ จึงจะผ่านการรับรองว่า รถคันดังกล่าวเป็นอีโค่คาร์ และจะได้รับส่วนลดตามนโยบายของภาครัฐบาลด้วย

 รถอีโค่คาร์

1.       ความประหยัดน้ำมัน  ในข้อแรกรถยนต์อีโค่คาร์ต้องมีความประหยัดน้ำมันตามกฏเกณฑ์ และด้วยข้อกำหนดนี้ก็ทำให้หลายคนเข้าใจผิดอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ซึ่งตามหลักแล้วจะต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร หรือ น้ำมัน 1 ลิตรวิ่งได้ระยะทาง 20 กิโลเมตร

2.       การรักษาสิ่งแวดล้อม  ในข้อนี้คือการกำหนดกฏเกณฑ์ในการปล่อยไอเสียเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ โดยกำหนดให้รถยนต์รุ่นที่จะถูกผลิตขึ้นมาเป็นอีโค่คาร์ ต้องมีการปล่อยมลพิษปลอดภัยระดับ Euro4 คือ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์น้อยกว่า 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เท่านั้น

 3.       ความปลอดภัยชั้นนำ ความประหยัดและการปล่อยไอเสียอาจจะไม่ใช่เรื่องยากแต่ที่สำคัญไปกว่านั้น รถยนต์ที่จะผ่านตามเกณฑ์นี้ ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ตามมามาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป (UNECE 94 และ 95) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยจากการชนด้านหน้าและด้านข้าง

รถอีโค่คาร์

4.       ความเหมาะสมต่อการใช้งาน ด้วยความเป็นรถยนต์ขนาดเล็กรัฐบาลจึงตั้งใจทำมันออกมาให้ตอบโจทย์ ต่อรถยนต์สำหรับใช้งานในเมือง ซึ่งมีข้อกำหนดที่สำคัญต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยอนุญาตให้ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินมีความจุไม่เกิน  1.3  ลิตร  และที่ยังไม่เห็นก็มีเครื่องยนต์ดีเซล ที่กำหนดให้มีขนาดไม่เกิน  1.4  ลิตร ซึ่งแน่นอนว่ามันน่าจะมีในอนาคตอันใกล้นี้

ดังนั้นถ้ามองรถยนต์อีโค่คาร์แล้ว นี่ไม่ใช่รถยนต์ที่มีราคาถูกไร้คุณภาพตามที่หลายคนเข้าใจ ทั้งที่เพียงติดกับภาพลักษณ์ในเรื่องขนาดของมัน หากแต่นี่คือรถที่มีมาตรฐานต่างๆรองรับมากมาย ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนมุมมองจากความเป็นรถกระป๋องราคาถูกมาสู่ รถที่มีดีที่มาตรฐาน ซึ่งราคาที่ถูกของมันมาจากการอุดหนุนจากภาครัฐไม่ใช่ต้นทุนต่ำอย่างเข้าใจ