ผู้เขียน หัวข้อ: 20 เคล็ดลับลดน้ำหนักโดยไม่ต้องออกกำลังกาย  (อ่าน 2330 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Mor

  • Type3
  • ***
  • กระทู้: 384
  • คะแนนพิษสวาท +1/-1
1) โลว์แฟท (Low Fat) อาจจะเพิ่มไขมันให้คุณได้ !
ผู้คนมากมายชอบหยิบฉวยอะไรก็ตามที่เขียนติดว่า "โลว์แฟท" หรือไขมันต่ำ แต่อันที่จริงแล้วผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านี้มักประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตคุณภาพต่ำ ซึ่งไม่อาจช่วยให้คุณอิ่มท้องได้นาน แต่ให้พลังงานน้อยกว่าแบบไขมันปกติไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

2) ขอความช่วยเหลือ
ขอคำแนะนำจากนักโภชนาการเพื่อที่คุณจะได้รู้จักฝึกนิสัยการบริโภคที่ดี และละทิ้งนิสัยการบริโภคแย่ ๆ ไป

3) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
นักวิจัยมหาวิทยาลัยเวค ฟอเรสต์ ที่สหรัฐอเมริกาค้นพบว่า การนอนน้อยเกินไป หรือมากเกินไป ทำให้เรากินมากขึ้น คุณควรจะนอนให้ได้ราว 6-7 ชั่วโมงต่อคืน จะดีที่สุด

4) ปฏิเสธอาหารฟรี
มีสำนวนที่กล่าวว่า "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" และสำนวนนี้ก็เข้ากันกับอาหารฟรีที่ร้านอาหารด้วย บางครั้งในชุดอาหารมักแถมของว่าง หรือขนมมาให้ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังเสียเงินเพื่อซื้ออาหาร พ่วงกับการยัดแคลอรี่จากของว่างนี้เข้าร่างกายโดยที่ไม่ได้มีคุณค่าใด ๆ ทางโภชนาการเลย

5) หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม
การศึกษาในปี 2005 พบว่าการดื่มน้ำอัดลมเพียงแค่แก้วสองแก้วต่อวันสามารถเพิ่มแนวโน้มการเข้าชมรมคนอ้วนได้ถึง 33% ส่วนน้ำอัดลมแบบไดเอทก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ นักวิจัยมหาวิทยาลัยซาน อันโตนิโอ ที่สหรัฐอเมริกาค้นพบว่าน้ำอัดลมแบบไดเอททำให้รอบเอวของผู้เข้าร่วมการทดลองเพิ่มขึ้นได้ห้าเท่าพอ ๆ กันกับพวกที่ไม่ได้ดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอท

6) ห้ามอดอาหาร
แม้สัญชาตญาณอาจจะบอกคุณว่าการงดมื้ออาหารจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ แต่ความเป็นจริงมันตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง การงดอาหารจะลดอัตราการเผาผลาญอาหารของร่างกาย และจะทำให้คุณหิวมากขึ้น กินมากขึ้น และเก็บสะสมไขมันมากขึ้น จากผลการศึกษาที่รายงานโดยวารสารด้านระบาดวิทยาของอเมริกา (the American Journal of Epidemiology) พบว่าการงดอาหารจะทำให้คุณอ้วนง่ายกว่าเดิม 4.5 เท่าเลยทีเดียว

7) ค่อย ๆ กิน
อย่ารีบกินอาหารเร็วเกินไป เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้คุณกินมากขึ้น ร่างกายคุณต้องใช้เวลา 20 นาทีกว่าสมองจะรู้ตัวว่ากระเพาะเต็มแล้ว

8) ทีวีทำให้คุณอ้วนได้
การดูโทรทัศน์จะทำให้คุณกินโดยไม่จำเป็น การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเวอร์มอนท์ สหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าการลดเวลาดูโทรทัศน์ลงครึ่งหนึ่งสามารถช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่คุณนำเข้าสู่ร่างกายได้ 119 แคลอรี่ต่อวัน

9) อย่ากินอาหารชุดคอมโบ
วารสารด้านนโยบายสาธารณะ และการตลาด (the Journal of Public Policy & Marketing) เปิดเผยว่า อาหารชุดคอมโบมีแคลอรี่มากกว่าการสั่งอาหารแยก และอาหารชุดคอมโบ มักจะให้อาหารในปริมาณมากกว่าที่คุณต้องการ

10) อย่ามองอาหาร
เมื่อคุณไปกินอาหารแบบบุฟเฟต์ คุณควรนั่งในที่ที่คุณจะมองไม่เห็นอาหาร เพื่อที่มันจะได้ไม่ล่อหน้าล่อตาคุณให้คุณอยากกินมากยิ่งขึ้น นักวิจัยมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าคนที่น้ำหนักเกินมีโอกาสที่จะนั่งในที่ที่มองเห็นอาหารได้ง่ายกว่าคนน้ำหนักปกติ 15% ทางที่ดีบุฟเฟ่ต์น่ะ อย่าไปกินเลย

11) เลือกใช้จานขนาดเล็กกว่า
ลองใช้จานขนาดเล็กกว่าเพราะคุณจะมีโอกาสกินน้อยกว่า และรับแคลอรี่เข้าไปน้อยกว่า

12) ตั้งอาหารให้ตักเพิ่มจากในครัว
วารสารด้านโรคอ้วน (The journal Obesity) ตีพิมพ์ผลการศึกษาซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเอาอาหารวางให้ตักเพิ่มบนโต๊ะทำให้คุณกินมากกว่า 35% เมื่อเทียบกับการต้องไปตักเพิ่มในครัว เนื่องจากว่าคนมักจะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นักที่จะต้องเดินกลับไปที่ครัวเพื่อเติมอาหารอีกรอบหนึ่ง

13) กินอาหารที่เป็นโฮลเกรน
อาหารโฮลเกรน คือ ธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย จะมีใยอาหาร หรือไฟเบอร์มากกว่า และมีสารอาหารมากกว่าพวกอาหารที่ได้รับการขัดสีแล้ว วารสารโภชนาการทางการแพทย์ของอเมริกา (American Journal of Clinical Nutrition) ตีพิมพ์ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาหารโฮลเกรนทำให้ผู้ร่วมการทดลองที่มีน้ำหนักเกิน สามารถลดปริมาณไขมันหน้าท้องได้ในเวลา 12 สัปดาห์

14) ตักอาหารคำเล็กลง
การตักอาหารคำเล็กลงเข้าปากช่วยให้ร่างกายมีเวลาจัดการกับอาหารมากยิ่งขึ้น และทำให้คุณไม่กินมากจนเกินไป เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลา 20 นาทีจึงจะรู้ตัวว่าอิ่มแล้ว วารสารโภชนาการทางการแพทย์ของอเมริกา (American Journal of Clinical Nutrition) เปิดเผยว่าการกินคำใหญ่มากขึ้นทำให้คนเรารับแคลอรี่เข้าร่างกายมากกว่า 52% เมื่อเทียบกับคนที่ตักอาหารคำเล็กกว่า

15) ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การดื่มน้ำช่วยทำให้คุณห่างไกลไขมัน ผลการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐอเมริกาค้นพบว่า ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ดื่มน้ำสองแก้วก่อนอาหารสามารถลดน้ำหนักลงได้ 30% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำ เนื่องจากว่าผู้ที่ดื่มน้ำจะรู้สึกอิ่มก่อนอาหารมากกว่า และไม่ได้กินมากเกินไป

16) อยู่กับเพื่อน ๆ ที่รูปร่างดี
การอยู่ร่วมกับคนที่รูปร่างดี แข็งแรง จะทำให้คุณมีแนวโน้มนำพฤติกรรมการรักษาสุขภาพดี ๆ ของเพื่อนมาใช้ วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (The New England Journal of Medicine) ค้นพบว่าคุณมีโอกาสน้ำหนักเพิ่มขึ้น 57% เมื่อเพื่อนของคุณมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

17) อย่ากินมื้อดึก
พยายามหลีกเลี่ยงการกินมื้อดึก เนื่องจากวารสารด้านโรคอ้วน (The journal Obesity) แสดงให้เห็นว่าคนที่กินอาหารหลังเวลาสองทุ่มนั้นรับจำนวนแคลอรี่เข้าไปมากกว่า และมีค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index หรือ BMI) สูงที่สุด

18) ชั่งน้ำหนักซะ
การชั่งน้ำหนักเวลาเดิมเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้คุณพยายามตั้งมั่นกับเป้าหมายการลดน้ำหนักได้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา สหรัฐอเมริกาค้นพบว่าคนที่เคยชั่งน้ำหนักทุกวันสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ชั่งน้ำหนักบ่อย ๆ ถึงสองเท่า

19) หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสผลไม้
ผลไม้อาจมีประโยชน์สำหรับคุณ แต่เครื่องดื่มรสผลไม้ไม่ได้มีประโยชน์ เพราะมีส่วนผสมของน้ำเชื่อมที่จะเพิ่มรอบเอวคุณให้หนาขึ้นเท่านั้นเอง

20) อย่ากินเมื่ออารมณ์ไม่ดี
มหาวิทยาลัยแอเลอะแบม่า (อาละบาม่า) สหรัฐอเมริกาค้นพบว่าผู้ที่กินเพราะความเครียดมีโอกาสอ้วนได้มากกว่า 13 เท่า เพราะกินเยอะเกินไป