กรมการขนส่งทางบก เผยระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2556 มีรถเข้าตรวจสภาพกว่า 1 ล้านคัน ไม่ผ่านการตรวจสภาพกว่า 1 หมื่นคัน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเจ้าของรถมีการแก้ไขอุปกรณ์ส่วนควบ รองลงมา เป็นเรื่องระบบอุปกรณ์ส่วนควบไม่สมบูรณ์ เตือนเจ้าของรถที่แก้ไขอุปกรณ์ส่วนควบ มีความผิดถูกปรับตามกฎหมาย
“กรมขนส่ง”เตือนรถแก้ไขอุปกรณ์ส่วนควบผิดกฎหมาย
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2556 มีรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,408,733 คัน เป็นรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 1,177,899 คัน และรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก 230,834 คัน และ โดยผ่านการตรวจสภาพทั้งสิ้น จำนวน 1,397,588 คัน ไม่ผ่านการตรวจสภาพจำนวน 11,145 คัน ซึ่งแยกเป็นรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบมี จำนวน 8,152 คัน
โดยความผิดส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบของรถก่อนได้รับอนุญาต สำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก จำนวน 2,993 คัน ความผิดส่วนใหญ่เป็นเรื่องระบบห้ามล้อชำรุดบกพร่องหรือประสิทธิภาพห้ามล้อไม่ถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนดและแก้ไขเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ส่วนควบโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับเจ้าของรถที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบของรถโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น แก้ไขปรับแต่งระบบไฟฟ้าของรถยนต์ ระบบไฟส่องสว่าง ระบบสัญญาณต่าง ๆ ระบบห้ามล้อและระดับเสียงดังของรถ รวมทั้งมีการแก้ไขสภาพตัวถัง เช่น โครงรถ สีรถ ซึ่งอาจจะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์มาตรา 12 ฐานใช้รถที่จดทะเบียนแล้วแต่ปรากฏในภายหลังว่า รถนั้นมีส่วนควบหรืออุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่นมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และอาจจะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกตามมาตรา 71 ฐานใช้รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงไม่มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกจะเข้มงวดตรวจสอบอย่างจริงจัง เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากประชาชนพบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสาร สภาพรถไม่สมบูรณ์ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง