อุตะ...คนแก่ ขับรถปลอดภัยกว่าคนทุกวัย!!!
พูดกันมาสักพักแล้วว่า โลกในอนาคตน่าเป็นห่วง เพราะน่าจะเต็มไปด้วยประชากรสูงวัย ที่เป็นผลพวงมาจาก หนุ่มสาวทุกวันนี้ ไม่ค่อยแต่งงาน มีลูกกัน ดูอย่างที่สหรัฐอเมริกา ก็มีการคาดการณ์ว่า อีก 36 ปีข้างหน้า หรือปี พ.ศ.2593 สหรัฐอเมริกาจะมีคนชราที่มีอายุ 70 ปี หรือมากกว่านั้น ราว 64 ล้านคน คิดเป็น 16% ของประชากรทั้งหมดในประเทศ
คำถามหนึ่ง ที่มีคน(แอบ)กังวลกันก็คือ เมื่อถึงวันที่ "คนแก่ครองเมือง" วันนั้น อุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่พุ่งสูงปรี๊ด เชียวหรือ?
ใครที่แอบคิดเช่นนั้นอยู่ ขอบอกว่า คุณกำลังคิดผิดมหันต์
อย่างน้อยวันนี้ที่สหรัฐอเมริกาก็มีผลสำรวจจากสถาบันประกันความปลอดภัยบนทางหลวง ที่สุ่มสำรวจเก็บข้อมูลมาร่วม 10 ปี ออกมายืนยันแล้วว่า กลุ่มคนชราที่มีอายุ 70 ปี หรือมากกว่านั้น ที่ยังขับขี่รถยนต์ กลับเป็นกลุ่มคนที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา หรือหากเกิดอุบัติเหตุ ก็ไม่มีการบาดเจ็บรุนแรง หรือถึงขั้นเสียชีวิต ขณะที่กลุ่มผู้ขับขี่วัยกลางคนอายุระหว่าง 35-54 ปี ยังก่ออุบัติเหตุมากกว่าคนชราภาพซะอีก
และที่น่า "ช็อกเว่อร์" ก็คือ กลุ่มคนชราอายุ 80 ปี หรือมากปีกว่านั้น คือกลุ่มผู้ขับขี่ที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงมากที่สุด
ทั้งนี้ ในผลสำรวจบอกถึง เหตุผลที่ทำให้อุบัติเหตุทางรถยนต์ในกลุ่มครชราลดลงว่า เป็นผลมาจาก ปัจจุบันรถยนต์มีอุปกรณ์ และระบบรักษาความปลอดภัยดีขึ้น ขณะที่คนชราทุกวันนี้ก็มีสุขภาพแข็งแรงดีขึ้น แข็งแรงขึ้นกว่าในอดีต
"ผลสำรวจที่ได้ น่าจะช่วยคลายความกลัวว่า ประชากรยุคเบบี้ บูมจะเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยบนท้องถนนลงได้" แอนน์ แมคคาร์ท รองประธานอาวุโสของ สถาบันประกันความปลอดภัยบนทางหลวงกล่าว
สำหรับใครที่คิดว่า ที่อุบัติเหตุลดลงน่าจะเป็นเพราะคนชราไม่ค่อยขับรถ หรือขับรถกันน้อยลง เรื่องนี้ แอนน์ แมคคาร์ท บอกว่า ไม่ใช่เลย ทั้งยืนยันว่าคนชราขับรถบ่อยกว่าในอดีตด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มคนชราวัย 75 อัพ ปรากฏว่าจากการสำรวจระหว่างปี 2538-2551 พบว่า ขับรถเพิ่มขึ้นถึง 50% แต่หากนำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มคนวัยกลางคน กลุ่มคนชราก็ต้องขับรถน้อยกว่าแน่นอนอยู่แล้ว
"จากข้อเท็จจริง ที่เราพบว่าคนชราขับรถกันมากขึ้น นั่นก็อาจชี้ให้เห็นได้ว่า พวกเขายังมีสุขภาพแข็งแรง และยังสบายใจในทักษะการขับขี่รถของตน"
อย่างไรก็ตาม แอนน์ แมคคาร์ท บอกว่า แม้กลุ่มคนชราจะขับรถมากขึ้น แต่คนกลุ่มนี้ก็จะเลือกไม่ขับรถทางไกล ไม่ขับรถช่วงกลางคืน และไม่ขับรถในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งน่าจะมีส่วนทำให้อุบัติเหตุลดลงด้วย