ขั้นแรก ควรใช้น้ำเปล่าล้างรถเสียก่อน 1 รอบ โดยใช้สายยางฉีดน้ำไปรอบๆเพื่อให้คราบดินสอพองอ่อนตัว พร้อมกับใช้ฟองน้ำถูอย่างเบาๆ นอกจากนั้นยังควรล้างฟองน้ำเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้คราบสกปรกบนฟองน้ำ ทำร้ายสีบนตัวถังรถนั่นเองจากนั้นจึงล้างด้วยแชมพูล้างรถ หรือ น้ำเปล่าซ้ำตามปกติ แล้วจึงเช็ดให้แห้ง
ทางที่ดีควรล้างรถทันทีที่มีโอกาส ไม่ควรปล่อยคราบดินสอพองทิ้งไว้ นิเช่นนั้นอาจเกิดรอยด่างได้
ขั้นที่สอง หากคุณผู้อ่านใช้รถไปในการเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ (เช่น รถกระบะที่บรรทุกถังน้ำและผู้โดยสารเพื่อเล่นน้ำ) ภายในรถของคุณผู้อ่านอาจมีโอกาสเปียกชื้นสูง ทางที่ดีจึงควรไล่ความอับชื้นภายในรถ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก อันเป็นต้นเหตุของกลิ่นอับภายในรถ
วิธีการคือ หาที่จอดรถโล่งๆกลางแดด ถอดผ้ายางปูพื้นหรือพรมออกจากรถ แล้วเปิดประตูทิ้งไว้กลางแดดสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อขจัดความชื้นในตัวรถออกไป
นอกจากนั้น ภายหลังจากที่คุณผู้อ่านเดินทางกลับจากการขับรถระยะทางไกลๆแล้ว ก็ควรเช็คสภาพรถเบื้องต้น ด้วยการตรวจเช็คอย่างง่ายๆ เริ่มตั้งแต่การฟังเครื่องยนต์ ว่ามีเสียงผิดปกติดังขึ้นหรือไม่ ตรวจเช็คสภาพยางว่าไม่มีจุดใดรั่วซึม เช็คความดันลมยาง
ตรวจเช็คระดับของเหลวต่างๆ ตั้งแต่ น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรค, น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ ฯลฯ หากพบว่ามีระดับพร่องกว่าปกติ ก็ควรเติมให้เรียบร้อย หรือ หากพบว่าน้ำมันเปลี่ยนเป็นสีดำ ผิดจากก่อนเริ่มเดินทาง ก็ควรเปลี่ยนถ่ายใหม่ให้เรียบร้อย เพราะการเปลี่ยนถ่ายของเหลวก่อนกำหนดถือเป็นการช่วยถนอมเครื่องยนต์ไปในตัว
เพียงเท่านี้ รถสุดรักของคุณผู้อ่านก็จะยังคงมีสภาพเหมือนใหม่ดังเดิมครับ