5 วิธีเอาตัวรอดแผ่นดินไหวขณะขับรถ
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นล่าสุด ที่มีศูนย์กลางอยู่ในจังหวัดเชียงรายขนาดกว่า 6 ริกเตอร์ สร้างความเสียหายมหาศาลแก่สิ่งปลูกสร้างและถนนหนทาง สิ่งนี้เตือนสติเราได้เป็นอย่างดีว่า 'ภัยธรรมชาติ' มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมออย่างไม่ทันตั้งตัว
หากคุณผู้อ่านกำลังขับรถบนถนนตามปกติ แต่จู่ๆกลับรู้สึกว่ารถมีอาการโคลงเคลง สิ่งของตก พื้นรถสั่น เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหว ให้ปฏิบัติดังนี้
1. ชะลอความเร็วของรถ พยายามจอดรถเข้าข้างทางโดยปลอดภัย ไม่ให้ขวางทางรถคันอื่น ที่สำคัญห้ามจอดรถใต้สิ่งก่อสร้างที่อาจล้มทับลงมาได้ เช่น สะพานลอย, ตึกสูง, ต้นไม้ใหญ่, เสาไฟ, ป้ายโฆษณา เป็นต้น
2. หลังจากรถจอดสนิทแล้ว ไม่ต้องดับเครื่องยนต์ (เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆตามมาจะได้หนีทัน ไม่งั้นหากต้องหนีขึ้นมาจริงๆ กลับสตาร์ทไม่ติดแบบมุขหนังผี จะเป็นเรื่องเอา!) ให้เหยียบเบรค หรือดึงเบรคมือไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล
3. เมื่อเช็คว่ารอบข้างไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆที่อาจหล่นลงมาทับ ให้นั่งคุมสติอยู่ในรถ หากไม่จำเป็นไม่ควรลงมาจากรถ คอยเปิดวิทยุฟังข่าวความเคลื่อนไหวอยู่ภายในรถก็พอ จนกว่าแผ่นดินไหวจะสงบลง
4. หลังจากแผ่นดินไหวสงบลงแล้ว ให้นั่งอยู่ในรถชั่วครู่จนแน่ใจว่าไม่มีอันตรายใดๆอีก จากนั้นจึงลงสำรวจสภาพรถ สภาพถนนรอบข้าง รวมถึงสภาพการจราจร เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเดินทางต่อได้อย่างปลอดภัย หากจอดรถใกล้เนินเขาให้ระวังดินสไลด์ที่อาจเกิดขึ้นได้
5. เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงเริ่มเดินทางต่อไปได้ โดยระลึกไว้เสมอว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวทุกครั้ง จะมีปรากฏการณ์อาฟเตอร์ช็อคตามมา หนักเบาสลับกันไป และอาจเกิดขึ้นได้มากกว่า 100 ครั้งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยแม้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่การเตรียมสิ่งของที่จำเป็นไว้ในรถ ถือเป็นการเตรียมพร้อมรับมือที่ดี ไม่ว่าจะเกิดเหตุใดๆก็ตาม สิ่งที่ควรมีติดรถไว้ ได้แก่ อุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆ ไฟฉาย น้ำขวด เป็นต้น