สรรพากรเล็งเก็บ VAT รถยนต์มือสอง
นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้จัดสินใจเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่อัตราร้อยละ 7 จากส่วนต่างของราคาจากการซื้อขายรถยนต์มือสอง ซึ่งขณะนี้สำนักนโยบายภาษีของกรมสรรพากรกำลังศึกษารูปแบบและวิธีการจัดเก็บภาษี เพื่อปิดช่องโหว่ของธุรกิจรถยนต์มือสองและเป็นโครงการนำร่องในการเก็บภาษี VAT จากการซื้อขายสินค้ามือสอง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีผู้เกี่ยวข้องไม่กี่ราย อีกทั้งการซื้อขายหรือเปลี่ยนรถยนต์มือสองมีหน่วยงานกลาง คือกรมขนส่งทางบก ซึ่งเป็นผู้รับจดทะเบียนรถยนต์ ทำให้ระบบการตรวจเช็คข้อมูลทำได้ง่าย แตกต่างจากการซื้อขายทองคำที่ไม่มีหน่วยงานกลางกำกับดูแลการเปลี่ยนมือของผู้ครอบครองสินค้า
ปัจจุบันรถยนต์มือสองมีการซื้อขายหมุนเวียนในตลาดผ่านเต็นท์รถยนต์ บริษัทห้างร้านและประชาชนทั่วไปประมาณปีละ 3 ล้านคัน หากกรมสรรพากรเก็บภาษีจากการซื้อขายรถยนต์มือสองได้เพียงคันละ 1,000 บาท ก็จะมีเงินไหลเข้าสู่ระบบภาษีถึง 30,000 ล้านบาท ซึ่งแม้ผู้ประกอบการรถยนต์จะไม่ขัดข้อง แต่ได้ขอให้ชะลอการจัดเก็บภาษีออกไปเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทางกรมฯ จึงต้องเร่งหารือกับกระทรวงการคลัง เนื่องจากการจัดเก็บภาษี VAT สินค้ามือสองต้องแก้ไขกฎหมายและนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาด้วย
นายสุทธิชัย ยังกล่าวว่า กรมสรรพากรมีแนวคิดการเก็บภาษีจากการขายรถยนต์มือสอง แม้ว่าเป็นช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ทำยอดขายได้น้อยลง แต่เป็นการศึกษาขั้นตอนรองรับไว้ในช่วงที่เศรษฐกิจดีขึ้น โดยเตรียมเชิญผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองรายใหญ่มาหารือแนวทางนำผู้ประกอบการเข้าระบบภาษีเพื่อระดมความเห็น เนื่องจากในต่างประเทศมีการจำหน่ายรถยนต์มือสองอย่างเป็นระบบ และมีรูปแบบการจำหน่ายชัดเจนจากดีลเลอร์รายใหญ่