รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดโครงการปฏิบัติการแก้ปัญหาจราจร ภาค 2 จับปรับจริง 5 พฤติกรรมผิดกฎจราจร ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการ 5 จริง โดยจะเริ่มโครงการในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้
สำหรับปฏิบัติการจับจริงผู้ขับขี่ ที่มีพฤตินิสัยผิดกฎหมายจราจร 5 จอมในที่นี้ คือ จอมปาด การขับขี่แซงหรือปาดหน้ารถคันอื่น จอมย้อน คือขับขี่ย้อนศร จอมขวาง คือหยุดหรือจอดรถขวางทางแยก ทางเลี้ยว จอมล้ำเส้น คือการหยุดหรือจอดรถล้ำเส้นหยุด และจอมปลอม คือปลอมแปลงทะเบียนรถเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม
หลังสำรวจพบว่าพฤตินิสัยเหล่านี้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัด และยังเป็นส่วนหนึ่งของอุบัติเหตุบนท้องถนน ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและชีวิตของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยตำรวจจะเริ่มมาตรการนี้ ในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ ทั้ง 199 แยกสำคัญทั่วประเทศ แบ่งเป็นในกรุงเทพมหานคร 90 แยกและพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ อีก 109 แยก และในวันพรุ่งนี้ คือวันที่ 16 กรกฏาคม จะถือเป็นวันแจ้งเตือนผู้กระทำผิด
สำหรับปฏิบัติการ จับปรับจริงพฤตินิสัยผู้ขับขี่ 5 จอมนี้ เป็นปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจราจร ภาค 2 ต่อจากมาตรการ 5 จริง ในการคืนพื้นผิวจราจร ที่ดำเนินการครบ 1 เดือน และพบว่าประชาชนมีความพึงพอใจมากกว่าร้อยละ 97 มีการสนับสนุนให้ใช้มาตรการนี้ แก้ไขปัญหาการจราจรต่อไป เพราะสามารถคืนพื้นผิวจราจรได้ร้อยละ 20 ทำให้รถเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้น
ห้องข่าว 7 สี
ตำรวจจราจรเตรียมจับจริง ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมนิสัยผิดกฏจราจรเป็นประจำตามมาตรการ 5 จอม นั่นคือ จอมปาด จอมย้อน จอมขวาง จอมล้ำ และจอมปลอม ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนพบว่ามี 5 พฤติกรรมที่ประชาชนรับไม่ได้ คือขับรถปาดแซงเส้นทึบหยุดรถล้ำเส้นหยุดรถ หยุดรถขวางทางแยกขับรถย้อนศร และ ปลอมทะเบียนรถ โดยจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้จะเริ่มปฏิบัติการจับจริงพร้อมกันทั้งประเทศทั้ง 199 แยก แบ่งเป็นพื้นที่นครบาล 90 แยก และต่างจังหวัด 109 แยก ซึ่งเป็นทางแยกหลักที่เป็นจุดรวมของรถ หากสามารถแก้ไขได้พฤติกรรมบนท้องถนนของประชาชนจะดีขึ้น พร้อมทั้งจะช่วยลดอุบัติเหตุได้ด้วย โดยในวันนี้จะเริ่มออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน ว่าจะเริ่มดำเนินการจับจริงในวันที่ 17 กรกฎาคม โดยจะจัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผลัดยืนประจำทางแยกตลอดทั้งวัน รวมทั้งจะใช้เทคโนโลยีที่มี ไม่ว่าจะเป็นกล้องเรดไลท์ คาเมร่า กล้องซีซีทีวี
ซึ่งหากประชาชนทำผิดจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี 2522 และพ.ร.บ.รถยนต์ ปี 2522 ดังนี้ หากขับรถปาดเส้นทึบมีโทษปรับไม่เกิน 1,000บาท จอดรถล้ำเส้นมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หยุดรถขวางทางแยกโทษปรับไม่เกิน500 บาท ขับรถย้อนศรมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ใช้ทะเบียนรถปลอมมีโทษปรับไม่เกิน2,000 บาท ทั้งนี้ในส่วนกรณีการปลอมทะเบียนรถนั้น นอกจากจะเป็นการแก้ปัญหากลุ่มคนใช้ทะเบียนปลอม ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการจับปรับเมื่อกระทำผิดกฎจราจรได้แล้วนั้น ยังเป็นการช่วยป้องกันปัญหาอาชญากรรมได้ด้วย
โดยทั้ง 5 มาตรการ เมื่อถูกจับและไม่ยอมมาจ่ายค่าปรับ จะมีการส่งผลการจับกุมไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อให้อายัดการต่อทะเบียนรถจนกว่าจะมีการจ่ายค่าปรับ และในเดือนกันยายนจะเน้นการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วประเทศสวมหมวกกันน็อคให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติภายหลังที่ดำเนินการมาตรการ 5 จอม สำเร็จไปแล้ว
(ขอบคุณเนื้อหาจาก VoiceTV)