ผู้เขียน หัวข้อ: ดูแลระบบแอร์ก่อนหน้าร้อน...เรื่องสำคัญที่ควรทำก่อนตับแตก  (อ่าน 1953 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Far

  • บุคคลทั่วไป
ดูแลระบบแอร์ก่อนหน้าร้อน...เรื่องสำคัญที่ควรทำก่อนตับแตก

เมื่อพูดถึงฤดูร้อนนั้น เราหลายคนคงนึกถึงระบบปรับอากาศรถยนต์ ที่จะเป็นสิ่งเดียวช่วยคุณคลายร้อน เว้น แต่คุณอยากลดความอ้วน อันนี้ก็ขับรถชิวๆเปิดกระจกกินลม แต่ก็คงไม่ไหว หากต้องผจญกับควันพิษในเมืองกัน

     ระบบแอร์แม้จะไม่ใช่ระบบที่เป็นตัวบทสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนรถยนต์หนึ่งคัน แต่มันก็สำคัญกับคนขับมากๆ โดยเฉพาะเมื่อร้อนนี้คุณอาจต้องแวะรับสาวๆ การทำให้รถของคุณมีระบบปรับอากาศที่ดีและพร้อมที่จะคลายร้อนทุกที่ทุกเวลา คงเป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง

      แล้วเราต้องดูแลอะไรบ้างหลายคนคงนึกอยากย้อนถาม แน่นอนเรื่องนี้อาจจะฟังดูยาก แต่ด้วยความที่ระบบแอร์รถยนต์นั้นเป็นระบบปิด  (หมุนเวียนภายในเท่านั้น) ถ้ารถคุณไม่ได้มีปัญหาจริง แค่ดูแลรักษาก็คงเพียงพอ

    1.เช็คน้ำยาแอร์   ในหน้าหนาวเราอาจจะไม่เคยรู้สึกร้อนอะไรมากมายนัก เพราะอากาศภายนอก ช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานแอร์ไปส่วนหนึ่ง แต่เมื่อหน้าร้อนคุณจะรู้ได้ทันทีว่าระบบแอร์คุณมีปัญหาหรือไม่ โดยเฉพาะ ถ้าช่วงที่กำลังเปลี่ยนฤดูนี้ รถใครเย็นแบบชืดๆ ไม่ฉ่ำ ก็ได้เวลาเปิดฝากระโปรง ตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์แล้ว

        การดูระดับน้ำยาแอร์นั้น คุณสามารถดูได้ที่กรองแอร์ ซึ่งอยู่ในบริเวณแผงระบายความร้อนทางด้านหน้ารถ โดยกรองแอร์หรือที่บางคนเรียกว่า Dryer นี้จะมีช่องตรวจสอบน้ำยา โดยสังเกตผ่านตาแมวที่เป็นกระจกใส่ ว่า ถ้าเราเริ่มเห็นฟองอากาศ แสดงว่าน้ำยาแอร์เริ่มน้อย กลับกันถ้าน้ำยายังมากกระจกจะค่อนข้างใส  ซึ่งโดยปกติแล้วเราต้องเติมน้ำยาแอร์เป็นประจำทุกๆ 2 ปี

    2.ตรวจเช็ครอยรั่วของระบบ บางครั้งสาเหตุที่แอร์รถเราไม่เย็นนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากระบบเกิดรอบรั่ว ซึ่งโดยทั่วไประบบแอร์จะไม่สามารถรั่วเองได้ เว้น แต่จะมีการสึกหรอของอุปกรณ์ ไม่ว่าจะแผงระบายอากาศไปจนถึงโอริงตัวเล็กที่ประกบอยู่ระหว่างชุดท่อแอร์ข้างใน

     การสังเกตว่าแอร์รถของท่านรั่วหรือไม่นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ โดยดูจากรอยรั่วที่น้ำยากระทำต่อนวมแอร์ หรือมีคราบสกปรกในบริเวณต่างๆที่ใกล้กับท่อแอร์ ซึ่งคราบเหล่านี้เกิดจากน้ำยาแอร์ แต่กรณีที่รถของท่านเกิดไม่มีรอยน้ำยาเหล่านี้แต่น้ำยาแอร์พร่อง หาย อาจเป็นไปได้ 2 กรณี คือ 1 น้ำยาแอร์ต่ำ และ 2 อุปกรณ์ในระบบที่ไม่ใช่ชุดท่อแอร์รั่ว ซึ่งเราจำเป็นต้องติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

     3.ล้างแอร์   ถ้าคุณคิดว่ารถคุณปกติ ก็ได้เวลาไปล้างแอร์กัน ปัจจุบัน การล้างแอร์นั้น สามารถทำได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องถอดตู้แอร์ออกมาให้ยุ่งยากวุ่นวาย  ซึ่งหากคุณมีโอกาส ค่าใช้จ่ายครั้งละ 1,500 บาท ต่อครั้ง อาจจะทำครั้งละ 1 ปี ถือว่าไม่ใช่เงินที่เยอะเลย และนอกจากลมแอร์จะดีขึ้นแล้ว ยังช่วยรักษาสุขภาพของคุณและผู้โดยสารด้วย

       4.ไปล้างรถ หลายคนอาจจะงง มันไปเกี่ยวอะไรกับการล้างรถ  แต่นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราแนะนำให้คุณไปร้าน ล้าง อัดฉีด ที่มีเครื่องน้ำพ่นแรงๆ แล้วบอกเน้นย้ำเขาให้จัดการกับแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถคุณ ซึ่งทุกวันที่คุณขับ นอกจากเศษฝุ่นแล้วคราบใบไม้ บางทีอาจจะแถวสัตว์ประหลาดมาด้วยนั้น จะถูกหมักความสกปรกไว้ตรงนี้ทั้งหมด ซึ่งการล้างอัดฉีดเป็นวิธีเดียวที่ช่วยได้ และถึงมันไม่เกี่ยวกับระบบปรับอากาศรถยนต์โดยตรง แต่การที่เราขจัดคราบฝุ่น-เศษขยะไปได้ก็ช่วยการระบายความร้อนของน้ำยาดีขึ้น และแน่นอน แอร์เย็นเร็วขึ้นด้วย

       5.ไปเยี่ยมร้านแอร์ หลังจากที่เราเสร็จการเช็คด้วยตัวเราเองแล้ว ก็ได้เวลาไปแวะเยี่ยมช่างผู้ชำนาญการ เพื่อให้เขาตรวจสอบอีกครั้งเป็นการเช็คซ้ำ เพราะการที่เราเช็คด้วยตัวเองบางครั้งไม่ใช่ว่าจะรู้ไปเสียทั้งหมด การที่เราเช็คมาก่อนหน้านี้นั้น ช่วยให้เรารู้ถึงปัญหาก่อนที่จะเข้าร้าน และแน่นอนหลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกคุณน่ะไม่ได้หรอก 

   ทั้งหมด 5 ข้อนี้ก็เป็นทริคที่คุณควรรีบๆไปทำเสีย ก่อนที่ตุ๊กตาหน้ารถจะหงุดหงิดเอาได้ถ้าเธอเจออากาศร้อนอบอ้าวเอา ยังไงจำไว้ว่าทุกปัญหามีสัญญาณและทางแก้ไข อยู่ที่คุณจะทำอย่างไร และดำเนินการได้เร็วหรือไม่ เท่านั้นเอง