ผู้เขียน หัวข้อ: ฝนตก ไม่ล้างรถ ความเชื่อที่ผิดมหันต์  (อ่าน 1858 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Mor

  • Type3
  • ***
  • กระทู้: 384
  • คะแนนพิษสวาท +1/-1
หลังจากที่แดดแผดเผาเจ้ารถคันเก่งอย่างทรมานมาเป็นเวลานาน ช่วงนี้ก็มีฝนตกให้ได้ชุมฉ่ำกันแทบทุกวันแล้ว แต่เมื่อฝนจากไป มันกลับทิ้งคราบไว้บนรถของเรา ทั้งๆที่เพิ่งล้างมาเอง จึงเกิดความเชื่อที่ว่า ฝนตก ไม่ล้างรถ เพราะเดี๋ยวมันก็ตกใหม่ นั่น คือลางร้ายแล้วครับ

อันตรายจากน้ำฝน

หลายคนคงสงสัยว่า จะล้างไปทำไม ก็แค่คราบเลอะ ล้างคราบออก เดี๋ยวก็เลอะอีก ถูกต้องครับ เลอะอีกแน่นอน แต่เดี๋ยวมาดูอันตรายที่อยู่ในน้ำฝนกันก่อนครับ ในนํ้าฝนจะมีฝุ่นละออง , ควัน , สารเคมีปนเปื้อน รวมไปถึงความเป็นกรดอ่อนๆที่มีอยู่ในตัวนํ้าฝนเอง ซึ่งสิ่งเจือปนต่างๆเหล่านี้ มีสรรพคุณในการทำลายสีรถของเราได้เป็นอย่างดีครับ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของความชื้น ที่จะไปก่อให้เกิดคราบฝังที่ล้างออกยากและก่อให้เกิดน้องหนิมอีกด้วยครับ
ล่องลอยที่เกิดขึ้นจากน้ำฝน

ล่องลอยที่เกิดขึ้นจากน้ำฝน
ฝนตก ไม่ล้างรถ จะเป็นยังไง

ก็ต้องยอมรับครับว่า ในช่วงที่ในตกทุกวันแบบนี้ หากจะให้มาล้างรถทุกวันคงไม่ไหวแน่ เพราะผมเองก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องจอดรถ และขับรถ ตากฝนทุกวันเหมือนกันครับ หากจะให้มานั่งล้างรถหลังเลิกงานทุกวันก็แย่ครับ ไม่เหนื่อยตาย ก็คาร์แคร์รวยไปก่อนพอดีครับ แต่หาก ฝนตก ไม่ล้างรถ เลยมันก็จะเจอกับสิ่งที่ผมกล่าวไปข้างต้น ถ้าอย่างนี้แนะนำให้ทำแบบผมครับ
หากไม่มีเวลา ฉีดน้ำไล่เอาก็เพียงพอครับ

หากไม่มีเวลา ฉีดน้ำไล่เอาก็เพียงพอครับ

ในวันที่ไม่มีเวลาจะล้างรถจริงๆ ให้เพื่อนๆ ใช้การฉีดน้ำสะอาดไล่ไปให้ทั่วรถ คือการฉีดไล่น้ำฝนที่เกาะอยู่บนรถออกให้หมดนั่นเองครับ จากนั้นก็เช็ดให้แห้งทุกซอกทุกมุม เพียงเท่านี้ก็ช่วยถนอมรถยนต์คันโปรดของเราจากน้ำฝนได้แล้วครับ
อย่าลืมใช้ผ้าเช็ดรถ เช็ดแห้งให้เรียบร้อยนะครับ

อย่าลืมใช้ผ้าเช็ดรถ เช็ดแห้งให้เรียบร้อยนะครับ

แต่หากมีเวลาและสมควรแก่เวลาในการล้างก็ล้างเลยนะครับ อย่าคิดว่าเดี๋ยวก็เลอะอีก สำคัญที่สุด ห้ามเช็ดแห้งโดยไม่ฉีดน้ำไล่ก่อนเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ในคราบน้ำฝน โคลน ทราย มันจะทำลายสีรถของเพื่อนๆให้เกิดรอยแน่ๆครับ และทางที่ดีหากมีเวลาล้างแบบเต็มขั้นตอนก็เคลือบสีเพื่อช่วยปกป้องสีรถไปด้วยเลยนะครับ