4 Checklist ก่อนเคลม... คุ้ม-ไม่คุ้ม
“อุบัติเหตุ” เกิดขึ้นโดยที่คุณไม่เคยคาดคิด... ถ้าโชคร้ายรถเสียหายมากถึงขนาดที่ซ่อมยังไงก็ไม่คุ้มก็ต้องทำใจขายรถทิ้งไป แต่ถ้าโชคดีหน่อยรถเสียหายไม่มากพอจะซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ได้คุณก็มีทางเลือกที่จะเอารถไปซ่อม 2 นั่นคือ เคลมประกันหรือซ่อมเอง
แต่เคลมแบบไหนคุ้มกว่ากัน? ต้องลองทำ 4 Checklist ต่อไปนี้
Check 1: ใครเป็นฝ่ายผิด
หลังเกิดอุบัติเหตุให้พิจารณาเบื้องต้นว่าใครเป็นฝ่ายผิดและมีคู่กรณีหรือไม่ เพราะถ้าคุณเป็นฝ่ายถูกและมีคู่กรณีจะสามารถเคลมประกันได้ทันทีโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าฝ่ายไหนผิดควรรอเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยตัดสิน เพราะคุณเป็นฝ่ายผิดจริงๆ อาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คุณต้องพิจารณาใน Checklist ข้อต่อไป...
Check 2: ประเมินค่าใช้จ่าย
ส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณตัดสินใจว่าจะเคลมหรือไม่เคลมคือการประเมินค่าใช้จ่ายว่าสุดท้ายแล้ว คุณจ่ายเองคุ้มกว่าเคลมประกันหรือไม่ โดยอาจประเมินจากค่าอะไหล่ที่เสียหายอย่างคร่าวๆ
Check 3: ค่าเสียหายส่วนแรก (Deduct ) เท่าไร
ค่าเสียหายส่วนแรก (Deduct) เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณตกลงจะรับผิดชอบเองตั้งแต่ 1,000 - 5,000 บาทกรณีเกิดความเสียหายเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ (สามารถดูได้ที่กรมธรรม์) แต่จะจ่ายเงินเองก็ต่อเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณประเมินค่าความเสียหายแล้วเกินค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณระบุไว้ ก็ควรจะเคลมประกันดีกว่า เพราะถ้าซ่อมเองคงไม่คุ้มแน่ๆ
Check 4: ปีหน้าคุณได้ส่วนลดประวัติดีหรือไม่
ส่วนลด 20% ถ้าไม่มีการเคลมในปีที่ 1
ส่วนลด 30% ถ้าไม่มีการเคลมในปีที่ 2
ส่วนลด 40% ถ้าไม่มีการเคลมในปีที่ 3
ส่วนลด 50% ถ้าไม่มีการเคลมในปีที่ 4
สำหรับใครที่คำนวณบวกลบแล้วว่าไม่ขาดทุนและยืนยันจะเอาส่วนลดประวัติดีก็เตรียมควักเงินจ่ายค่าซ่อมรถเองไปก่อนได้เลย แล้วค่อยรอไปถอนทุนคืนตอนทำประกันในปีหน้า แต่ใครที่อยากจะเปลี่ยนบริษัทประกันภัยใหม่และต้องการซ่อมรถแบบที่ไม่ต้องควักเงินจ่ายเองก็แจ้งประกันส่งรถเคลมได้เลยค่ะ
เฉลยคำตอบ: ถ้า 1 ในคำตอบของคุณคือ “ไม่คุ้ม” เราขอแนะนำให้คุณนำรถเข้าเคลมบริษัทประกันแทนการจ่ายเงินซ่อมเองน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณค่ะ
ที่มา
www.sanook.com